“สายตรงคนนิยมพระ” อาทิตย์ที่ ๒๐ พฤศจิกายน ยังเหงา สนามพระส่วนกลาง เพราะคนในวงการ หลายร้อยคน นอกจากสำลัก “น้ำท่วม” แล้วการเดินทางยังต้องพึ่ง “เรือ” หรือ “รถทหาร” และพอน้ำแห้งก็ต้อง ซ่อมแซมบ้าน จึงไม่พร้อมที่จะมาล่าหา ของดี ประกอบกับ “อ.จัสติน รัตนมงคล” ที่ระบุว่าปีนี้ แผ่นดินไทย จะเป็น ทะเลสาบ แล้วความจริงก็เป็นตามที่ระบุทุกประการ **** นอกจากนี้ “อ.จัสติน” ยังย้ำอีกว่า พื้นที่ลุ่มน้อย ในกรุงเทพฯจะคืนสู่ปกติก่อน “๕ ธันวามหาราช” ประมาณสิบวัน ส่วนใน พื้นที่ลุ่มมาก คืนปกติต้องหลัง “๕ ธันวามหาราช” สิบวันเช่นกันฉะนั้น คนกรุง จึงต้องทำใจอีกระยะเพราะเป็นผลกระทบจาก “น้ำท่วมกรุง” ที่ส่งผลให้ ธุรกิจ ทุกภาคส่วน สะดุดหยุดกึก โดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ **** พูดถึงธุรกิจสะดุดเลยนึกถึงรายการ “อุ้ม” นักซื้อมือหนักที่ “สำลักน้ำเน่า” ผลก็คือเช็คที่ “ไม่เคยมีปัญหา” ต้องเป็นเช็ค “มีสปริง” ทำให้คู่กรณีสั่งนักอุ้ม “ขี้ม้านอกแถว” ที่ข่าวระบุว่าสั่งการโดยผู้มีอิทธิพลจากซุ้ม “ท่าพระจันทร์” จึงกล้าอุ้มกัน กลางวันแสก ๆ บนสนามพระ “พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน” เพื่อแผ่อิทธิพลแบบ ข้ามฟาก ซึ่งหลังจาก ตะวันบูรพา เจาะข่าวเพราะเป็นเรื่องที่ “น่ากลัว” จริง ๆ **** ถึงวันนี้กลายเป็นเรื่อง “บานปลาย” เมื่อนักซื้อมือหนักที่ “โดนอุ้ม” โร่ไปขอตำรวจที่ สน.นนทบุรี ทำการ “คุ้มครอง” ตามคำแนะนำของเซียนใหญ่ซุ้ม เมืองสุพรรณ ซึ่งพอเรื่องนี้เข้าหู “ท่านรักษาการ” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เจ้าของท้องที่จึง “สั่งสอบ” เพราะช่วงที่บ้านเมือง เกิดวิกฤติ ยังมีอิทธิพล “เถื่อน” ออกมาเบ่งบานบารมีเหมือน นนทบุรี เป็นเมืองเถื่อน **** ส่วนเรื่องจะ “ลงเอย” แบบใด ตะวันบูรพา ไม่ขอคาดเดาเพราะรู้เพียงว่า “พล.ต.ต.คำรณวิทย์” เอาจริงและหาก “พาดพิง” ถึงใครจะออก “หมายเรียก” สอบไม่มียกเว้นแต่หากไม่มาก็จะออก “หมายจับ” ทันทีเพราะเรื่องนี้ มือปราบ ที่ชื่อ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ จะไม่เพิกเฉยให้ บารมีเถื่อน เกลื่อนกรุงทุกกรณี ****  หันมาชม “พระแท้พระสวย” ที่นำเป็น “องค์ครู” ประเดิมด้วย “เหรียญพระไพรีพินาศเนื้อทองคำลงยา” ที่ วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างขึ้นพร้อมกับ “พระกริ่งไพรีพินาศ” เมื่อปี ๒๔๙๕ เพียงแต่ “เหรียญทองคำ” สร้างไว้น้อยปัจจุบันจึงนิยมมากหากสวย หลายแสน ไม่เชื่อให้ถาม ต้น ท่าพระจันทร์ เจ้าของเหรียญนี้ได้เลย  ****องค์ที่สอง “พระยอดธงเนื้อทองคำหนัก ๑ บาท” ศิลปะ อยุธยา ที่ผู้รู้ระบุว่า พระมหากษัตริย์ แห่ง กรุงศรีอยุธยายุคต้น ทรงสร้างขึ้นเพื่อฉลอง ชัยชนะ หลังทำสงคราม กำราบศัตรู โดยใต้ฐานจะมี เดือย สำหรับปัก ยอดธงชัย องค์นี้สภาพอยู่ในขั้นสวยมากของ ผูก รัศมี นักสะสมรุ่นครู **** ให้ชมอีกองค์พระยอดนิยม สายใต้ ที่เรียกว่า “พระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดพิมพ์นิยมเอเนื้อแดง” ที่ วัดช้างให้ สร้างเมื่อปี ๒๕๐๕ ด้วย เนื้อทองผสม เพราะเป็นอีกองค์ที่ ดูง่าย ราคาจึงทะลุแสนเนื่องจากผู้ที่ อาราธนาติดตัว มีประสบการณ์ด้าน นิรันตราย ดีมากของ “ผูก รัศมี” เช่นกัน **** องค์นี้ก็ต้องให้ชม “พระหลวงพ่อปานวัดบางนมโคพิมพ์ขี่ครุฑผีเสื้อ” ที่เซียนพระกรุ “ต้อย เมืองนนท์” ชี้ชัดว่า “หลวงพ่อปาน” ไม่ได้สร้างเพียงแต่ไป พบเห็น ในกรุจึงรวบรวมมา ปลุกเสกใหม่ พร้อมบรรจุ ผงพุทธคุณ ตรงบริเวณ ด้านบนองค์พระ จึงกลายเป็น ยอดพระเนื้อดิน อีกสกุล เมืองอยุธยา ที่พระเอก “อัครนันท์” เพิ่งได้มาครอบครอง **** ส่วนเหรียญนี้นาน ๆ จะมี “เนื้อเงิน” มาให้ชม “ตะวันบูรพา” จึงจัดมาให้ทุกท่านที่ “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ได้ชมด้วยเพราะเป็น “เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์นำวัดดอนศาลา” ที่ชื่อเป็น “จอมขมังเวท” เพราะมือปราบหนังเหนียวอย่าง “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช” ยังยกย่องเป็น “พระอาจารย์”**** เนื่องจากสมัย อาจารย์นำ ยังเป็น ฆราวาส ถูกเชิญมาทำพิธี “ข่มนาม” ข้างเวทีชกให้ “โผน กิ่งเพชร” เมื่อครั้งขึ้นเวที แย่งเข็มขัดโลก จาก นักชกญี่ปุ่น ซึ่งผลการชกครั้งนั้น “โผน กิ่งเพชร” ชนะชื่อเสียง “อาจารย์นำ” จึงกระฉ่อนเมืองเลยมีการสร้างเหรียญนี้ขึ้นเมื่อปี ๒๕๑๙ ด้วยเหตุนี้ “อัครนันท์” จึงไม่พลาดเป็นเจ้าของด้วยคน **** ชมเครื่องรางบ้างชิ้นแรก ตะกรุดยอดนิยม แห่ง เมืองชาละวัน เพราะสร้างโดย หลวงพ่อพิธวัดฆะมัง ด้วยเนื้อตะกั่ว ยาวสี่นิ้วและมีแกนกลางเป็น ทองเหลือง แล้วถักเชือกลงรักซึ่งถือเป็น ยุคต้น ในการสร้างของท่านโดยดอกนี้ สมบูรณ์มาก เพราะผ่านการใช้น้อยของ พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย หรือ “ผู้กำกับแขก” นั่นเอง **** ส่วนดอกนี้  “ตะกรุดหลวงพ่อปานวัดคลองด่านเนื้อทองแดง” ยาวสองนิ้วครึ่งที่หาได้ยากเพราะเป็นตะกรุด ขนาดเล็ก ที่สำนักนี้ไม่ค่อยสร้างขึ้นของ “แลนด์ เมืองนนท์” **** และลูกอมชิ้นนี้สร้างโดย “หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว” ที่ใช้ “ด้ายสายสิญจน์” ถักเป็นลูกอมแล้วลงรักที่พบเห็นน้อยมากเนื่องจากสมัยก่อน “หลวงปู่ยิ้ม” สร้างให้เฉพาะศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้นของ “ศัตราวุธเครื่องราง” ****หันมาชมพระช่วยน้ำท่วมองค์แรก “พระปิดตาจันทร์เพ็ญหลวงปู่เริ่มวัดจุกกะเฌอ” ที่สร้างเมื่อปี ๒๕๓๘ ด้วย ผงพุทธคุณ ผสมผงเก่า หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ พร้อม ผงกะลามหาอุด ๙ ลูก และ หลวงปู่เริ่ม ปลุกเสกก่อนมรณภาพ ๗ วัน “พระพุทธมนต์วราจารย์” ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสุทัศน์ นำออกมาให้บูชาหารายได้สมทบช่วยเหลือ พระ-เณร และ ชาวบ้าน ที่อยู่ในการปกครองและ ประสบภัยน้ำท่วม สอบถามที่ ๐๘-๕๙๕๔-๕๖๐๘ และ ๐๘-๕๕๑๑-๕๕๖๑  และ “พระสมเด็จใบมะขามหลัง ญสส.” ที่ วัดบวรนิเวศฯ สร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๑ พร้อม “พระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณรุ่นแรกหลวงพ่อสุดวัดกาหลงปี ๒๕๒๕” ก็นำรายได้สมทบช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย เช่นกันสอบถามที่ ๐๘-๖๓๖๖-๒๑๙๘ และ ๐-๒๘๖๖-๐๖๐๔ 

ตะวันบูรพา