อธิบดีกรมศิลปากรเผยได้รับความร่วมมือหลายองค์กรเร่งบูรณะวัดในอยุธยา ให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ชาวต่างชาติแห่ชม-ถ่ายรูปเศียรพระ รากต้นโพธิ์วัดมหาธาตุหลังน้ำลด...
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และอีกหลายองค์กร เข้ามาตรวจโครงสร้างและร่วมฟื้นฟูโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยภายในพื้นที่หัวใจประวัติศาสตร์ วิหารพระมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ ขณะนี้น้ำแห้งหมดแล้ว มีเพียงด้านหน้ากำแพงแก้ววัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ น้ำท่วมขังอยู่เล็กน้อย ได้ให้ผู้อำนวยการอุทยานฯ ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำออก นอกจากนี้ ที่วัดโลกยจุธาได้พบรอยร้าวใหม่ที่องค์พระนอนพุทธไสยาสน์ บริเวณเหนือฝ่าพระบาทปริแตกลึกเป็นทางยาวชัดเจน ทางวิศวกรสำนักสถาปัตยกรรมศาสตร์ ของกรมศิลปากร มีความเป็นห่วงมาก ซึ่งต้องเร่งบูรณะเป็นการด่วน
นางโสมสุดา กล่าวอีกว่า ส่วนวัดไชยวัฒนาราม ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ระดับลึก 1.40 เมตร กำลังดำเนินการสูบน้ำในวัดออก โดยรักษาระดับน้ำเพื่อลดแรงอัดน้ำด้านนอก ทั้งนี้ นักวิชาการและนักท่องเที่ยวที่วิตกกังวลว่า ซุ้มประตูกำแพงขององค์เจดีย์ปรางค์ปริแยกเอียง มองดูเหมือนจะหลุดออกมานั้น ทางนักโบราณคดีได้อธิบายว่า ยังมีความแข็งแรงอยู่ระดับหนึ่ง เพราะเส้นเหล็กยังยึดติดอยู่กับโครงสร้าง เมื่อครั้งบูรณะปี 2538 แต่หลังจากน้ำลด พื้นที่แห้งปกติแล้วจะทำการบูรณะบีบปริแยกเข้าไปยึดติดสนิทกำแพงประตู ให้อยู่ในรูปแบบสมบูรณ์ดังเดิม พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ให้กลับมาสวยงาม
โดยทางกรมศิลปากรคิดว่า จุดที่ต้องเร่งทำการบูรณะให้กลับคืนมาอย่างเร็วก่อนคือ บริเวณวิหารพระมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ จะขอแรงจิตอาสา และระดมเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยกันทำความสะอาดเบื้องต้น ส่วนกรมดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้แล้วเสร็จในเวลา 2 สัปดาห์ หรือราวต้นเดือนธันวาคม เพราะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเยี่ยมชมมาก เพราะเป็นหัวใจทางประวัติศาสตร์ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเข้ามาเดินชมในสถานที่ดังกล่าวบ้างแล้ว เพื่อเข้ามาดูสภาพโบราณสถานหลังน้ำลด และถ่ายรูปรอยคราบน้ำที่ท่วมสูงตามฐานเจดีย์ในอุทยานฯ และที่เป็นไฮไลต์อีกแห่งคือ บริเวณเศียรพระรากต้นโพธิ์วัดมหาธาตุ ส่วนใหญ่มีการบันทึกภาพคู่ไว้กับเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่นี้ อย่างไรก็ดี กรมศิลป์ได้ขอแรงเทศบาลพระนครศรีอยุธยา ช่วยเก็บขยะมูลฝอยที่กองอยู่ด้านหน้าโบราณสถานต่างๆ เพื่อให้ดูสะอาดตาด้วย.
