เซร์คิโอ อเกวโร  ทำคนเดียว 3 ประตู ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ไปขาดลอย 6-0 รั้งรองจ่าฝูงต่อไป พร้อมเขี่ย ควีนส์ปาร์ค ตกชั้นลงไปเล่นในลีก เดอะแชมเปียนชิพ แน่นอนแล้ว...

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤศ ฤดูกาล 2014-2015 ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค.  คู่ที่น่าสนใจ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 ของตาราง เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส  ทีมบ๊วยของตาราง  โดยเกมนี้ถ้าคิวพีอาร์แพ้ หรือเสมอ จะตกชั้นลงไปเล่นในลีก เดอะแชมเปียนชิพ ทันที

เปิดฉากครึ่งแรกมาถึง น.4 แมนฯซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ อเกวโร พาบอลโซโล่เดี่ยวแหวกผู้เล่นของทีมเยือนเป็นว่าเล่น  ก่อนชิพบอลข้าม โรเบิร์ต กรีน นายด่านคิวพีอาร์ เข้าไปอย่างสวยงาม

จากนั้น น. 32 แมนฯซิตี้ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ปั่นด้วยซ้าย บอลโค้งเข้าประตูไปอย่างงดงาม พา แมนฯซิตี้ หนีเป็น  2-0

รูปเกมช่วงที่เหลือของครึ่งแนกเป็น แมฯซิตี้ ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังบวกประตุเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส อยู่ 2-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึง น. 50 เรือใบสีฟ้า ขยับหนีเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา เปิดบอลยาวขึ้นหน้า ยุน ซุก ยัง กองหลังคิวพีอาร์จับบอลพลาด บอลหลุดมาถึง เซร์คิโอ อเกวโร พาบอลเข้าไปลุยเดี่ยวเข้าไปยิงอย่างเหนือชั้น

จากนั้น น. 64 แมนซิตี้ ได้จุดโทษจากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น เซร์คิโอ อเกวโร รับหน้าที่สังหารไม่พลาด  พาแมนฯซิตี้นำห่าง 4-0

แมนฯซิตี้ยังโขยกบุกใส่ทีมเยือนอย่างหนัก น.70 แมนฯซิตี้ หนีเป็น 5-0 เซร์คิโอ อเกวโร จ่ายบอลมาหน้าประตูให้ เจมส์ มิลเนอร์ ซัดเข้าไปไม่เหลือซาก

เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ น.87 แมนฯซิตี้ มาได้ประตูปิดท้าย 6-0 จากการยิงของ ดาบิด ซิลบา

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ไป 6-0 เก็บเพิ่มเป็น 73 คะแนน รั้งรองจ่าฝูงต่อไป ส่วน ควีนสืปาร์ค มี 27 แต้มเท่าเดิม ตกชั้นลงไปเล่นในลีก เดอะ แชมเปียนชิพ เป็นทีมที่ 2 ต่อจาก เบิร์นลีย์  แม้จะเหลือเกมให้เล่นอีก 2 นัดก็ตาม

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท,พาโบล ซาบาเลตา, มาร์ติน เดมิเคลิส, เอเลียควิม ม็องกาลา, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ,เฟอร์นันโด, เฟอร์นันดินโญ,เจมส์ มิลเนอร์, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ดาบิด ซิลบา,เซร์คิโอ อเกวโร