"ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รอดตายแบบหวุดหวิด หลัง โก ซุลกี สกัดพลาดโหม่งเข้าประตูตัวเอง ช่วยให้บุกไปเสมอ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1...
การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015 วันที่ 11 มี.ค. ศึกบิ๊กแมตช์กลางสัปดาห์เกมดวลแข้งระหว่างแชมป์และรองแชมป์เก่า ที่สนามไอโมบาย สเตเดียม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ทีมอันดับ 10 เปิดบ้านรับการมาเยือนของรองแชมป์เก่า "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 11 ซึ่งทั้งสองทีมมี 5 คะแนนจากเท่ากันต่างแค่จำนวนนัดที่เจ้าถิ่นเตะน้อยกว่า 1 นัด
นัดที่ อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือทีมบุรีรัมย์ฯ จัด ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ลงล่าตาข่ายร่วมกับ กิลแบร์โต มาเชนา ขณะที่ ชลบุรี ของกุนซือ จเด็จ มีลาภ ได้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กลับมาบัญชาเกม ส่วนแดนหน้าต้องหวังพึ่ง เลอันโดร อัสซัมเซา
เริ่มเกมครึ่งแรก บุรีรัมย์ ได้ทักทายก่อนตั้งแต่ 9 นาทีแรก ดิโอโก หลุยส์ ซานโต จับบอลลงในเขตโทษก่อนจะดึงหลบกองหลังแล้วซัดเข้าตรงตัวของ พีทวัส จำนงค์ชอบ มือกาวฉลามชล จากนั้นอีก 2 นาทีเจ้าถิ่นก็ได้ลองอีกครั้ง ธีราธร บุญมาทัน ทำเกมมาทางซ้ายก่อนจะเปิดเข้าเสาแรกให้ กิลแบร์โต มาเชนา โขกแต่ พีทวัส ยังป้องกันไว้ได้
น.15 ชลบุรี ได้ลองบ้างจากฟรีึคิกระยะหวังผลหนัาเขตโทษ จูเลียโน มิเนโร วิ่งมากดเต็มข้อบอลทะลุกำแพงตกพื้นไปเข้าซองของ ศิวรักษ์ เทษสูงเนิน มือกาวปราสาทสายฟ้า

จากนั้นยังเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้เหนือกว่าจนเกือบใส่สกอร์ ใน น.25 จากจังหวะเปิดบอลจากขวาเข้าหน้าประตูแนวรับทีมเยือนโหม่งแฉลบมาเสาสองเข้าทาง อันเดรส ตูเนซ พักบอลด้วยอกก่อนจะกดด้วยซ้ายทันทีแต่ พีทวัส พุ่งมาป้องกันได้ทัน และในนาทีต่อมาเจ้าถิ่นก็ยังได้ลุ้นจากลูกลักไก่ยิงไกลระยะ 30 หลา ของ ประกิต ดีพร้อม บอลพุ่งติดไซด์โป้งหลุดกรอบไปนิดเดียว
ในช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นยังเป็นทัพ "ปราสาทสายฟ้า" ที่ขึงเกมรุกเข้าใส่แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมอกับ ชลบุรี เอฟซี ที่ 0-0

กลับมาเล่นในครึ่งหลัง บุรีรัมย์ฯ เกือบใส่สกอร์ตั้งแต่ น.51 ดิโอโก หลุยส์ ซานโต พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายเบียดเอาชนะ สุรวิท โลกาวิทย์ ก่อนจะจ่ายให้ กิลแบร์โต มาเชนา ตวัดยิงไปที่เสาสองแต่บอลแฉลบหลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว
หลังจากนวดกันอยู่พักใหญ่ในที่สุด "ปราสาทสายฟ้า" ก็ปลดล็อกออกนำจนได้ ธีราธร บุญมาทัน วางยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ ประกิต ดีพร้อม สปีดตามเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะดีดผ่าน พีทวัส เข้าไปซุกก้นตาข่ายช่วยให้ บุรีรัมย์ฯ ออกนำ 1-0
เจ้่าถิ่นได้ใจใส่เกมรุกต่อเนื่องจนมาถึง น.71 "ฉลามชล" ได้ลุ้นเอาคืน เลอันโดร อัสซัมเซา ทำเกมมาทางขวาก่อนจะจ่ายให้ จูเลียโน มิเนโน วางเท้าปั่นด้วยซ้ายนอกเขตโทษแต่บอลโค้งไปเข้าซองของ ศิวรักษ์ พอดี
เกมดูเหมือนจะไม่มีอะไรจนเมื่อมาถึง น.83 ก็กลายเป็นแฟนบอล "ฉลามชล" ที่เฮลั่นจากจังหวะฟรีคิก กรกช วิริยอุดุมศิริ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากลางเขตโทษ โก ซุล กี ลอยตัวโขกสกัดแต่ดันพลาดกลายเป็นเปลี่ยนทางบอลพุ่งเข้าประตูตัวเอง ชลบุรี เอฟซี ตีเสมอ 1-1
น.87 บุรีรัมย์ฯ มีลุ้น ประกิต พาบอลขึ้นไปจนสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดไปหน้าประตูให้ ดิโอโก เทกตัวโขกแต่เข้าไม่ตรงกรอบ จากนั้น น.89 เจ้าถิ่นก็พลาดบวกสกอร์ไปอย่างเหลือเชื่อ ธีราธร บุญมาทัน เปิดเตะมุมฝั่งซ้ายเข้ากลางเขตโทษ ตูเนซ ลอยตัวโขกโดน พีทวัส ปัดออกมาแบ็กชาวสเปนลงมาซ้ำจ่อๆแต่นายด่านฉลามยังป้องกันเอาไว้ได้อีก
ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ ชลบุรี เอฟซี 1-1 แบ่งเพิ่มเป็นทีมละ 6 คะแนนเท่ากัน แต่ บุรีรัมย์ ลงเล่นไปแค่ 4 นัด ขณะที่ ชลบุรี 5 นัด
รายชื่อ 11 ตัวจริง
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ธีราธร บุญมาทัน, อันเดรส ตูเนซ, ชิติพัทธ์ แทนกลาง,กรวิทย์ นามวิเศษ, โก ซุล กี, สุเชาว์ นุชนุ่ม, นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม, ประกิต ดีพร้อม, กิลแบร์โต มาเชนา, ดิโอโก หลุยส์ ซานโต
ชลบุรี เอฟซี : พีทวัส จำนงค์ชอบ, ชลทิตย์ จันทคาม, สุทธินันท์ พุกหอม, กรกช วิริยอุดมศิรี, แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส,อดุล หละโสะ, จูเลียโน มิเนโร, สุรวิช โลกาวิทย์, นูรูล ศรียานเก็ม, เลอันโดร อัสซัมเซา, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์

ผลคู่อื่นมีดังนี้
ชัยนาท ฮอร์นบิล แพ้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 0-2
บีอีซี เทโร ศาสน เสมอ ราชนาวี 0-0
สระบุรี เอฟซี เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1
โอสถสภา เอ็ม150 แพ้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 0-2
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เสมอ ทีโอที เอสซี 1-1
บางกอกกล๊าส เอฟซี ชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 1-0
การท่าเรือเอฟซี แพ้ สุพรรณบุรี เอฟซี 0-2
