เอไอเอส ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2558 ยกเป็นยุครุ่งเรืองของอินเทอร์เน็ต เตรียมผลักฟิกซ์ บรอดแบนด์เอาใจลูกค้าด้วยความเร็วกว่า 1Gbps พร้อมสู้ศึก 4จี เต็มที่....
นายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ตลอด 25 ปีที่เอไอเอสให้บริการด้านโทรคมนาคม มีการลงทุนไปแล้วกว่า 240,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้เอไอเอสมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมกว่า 97% ส่วนในปีนี้บริษัทเตรียมลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายโครงข่ายและบริการอื่นๆ อาทิ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ก, ฟิกซ์ บรอดแบนด์, ดิจิตอล เซอร์วิส ซึ่งจะแบ่งการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท สำหรับขยายไวร์เลส เน็ตเวิร์ก
"การเปลี่ยนแปลงของเอไอเอสในครั้งนี้ เสมือนกับช้าง สัตว์ที่อยู่เคียงคู่คนไทย ซึ่งมีทั้งความซื่อสัตย์ ภักดี และสร้างความสุขคู่คนไทย เรียกได้ว่าจากช้าง (Chang) เป็นเชนจ์ (Change) อย่างเหมาะสม เพราะไม่เพียงหน้าที่ในการเป็นผู้นำในการให้บริการด้านโทรคมนาคม เรายังถักทอความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีจากการใช้งานแก่ลูกค้าด้วย"

อย่างไรก็ตาม ความมุ่งหมายต่อไปของเอไอเอสคือการสร้างความสำเร็จในการใช้งานแก่ลูกค้าในทุกวัน จากจำนวนลูกค้ากว่า 44 ล้านรายในปัจจุบัน ซึ่งมีการโทรกว่า 90 ล้านครั้งต่อวัน เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกว่า 200 ล้านครั้งต่อวัน มีผู้รับชมรายการทีวีและภาพยนตร์ผ่านแอพพลิเคชั่น AIS TV กว่า 2 ล้านคนต่อเดือน อ่านอี-บุ๊กกว่า 6 แสนคนต่อเดือน และใช้บริการโมบายล์ เพย์เมนต์กว่า 4 แสนครั้งต่อเดือน เอไอเอสจึงพยายามสร้างโลกใหม่แห่งดิจิตอล โดยรับบทบาทเป็นผู้จัดหาบริการและผู้นำในการให้บริการดังกล่าว
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ธุรกิจด้านโทรคมนาคมที่คาดว่าจะเติบโตอย่างมาก ได้แก่ โมบายล์ เซอร์วิส อุปกรณ์ต่างๆ และฟิกซ์ บรอดแบนด์
อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริการด้านโมบายล์จะเติบโตอีกราว 3-4% คิดเป็นมูลค่า 233,000 ล้านบาท ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะโตอีกราว 10% หรือมีมูลค่าราว 127,000 ล้านบาท ส่วนฟิกซ์ บรอดแบนด์จะเติบโตราว 15% หรือมีมูลค่าราว 62,000 ล้านบาท ส่วนการใช้งานด้านวอยซ์นั้นคาดว่าในปีนี้อาจมีสัดส่วนลดลงประมาณ 5% แตกต่างจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 200% เช่นเดียวกับด้านอุปกรณ์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 ล้านเครื่อง จากความนิยมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตทีวี และแวร์เอเบิล
"อุปกรณ์ต่างๆ จะเชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ตอย่างง่ายดาย การเป็น IoT (Internet of Thing) กำลังจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ในปีนี้ เรียกได้ว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคเดต้าอย่างเต็มตัว ดังนั้น เอไอเอสจึงต้องเปลี่ยน แต่มั่นใจได้ว่าเราเป็นองค์กรที่แข็งแรง ไม่ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เรากำลังจะปรับเพิ่มในส่วนที่ขาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของลูกค้าเท่านั้น"

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนรูปแบบธุรกิจของเอไอเอสนั้น ในปีนี้จะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นหลากหลาย อาทิ ด้านไวร์เลส เน็ตเวิร์ก ที่เรากำลังจะขยายโครข่ายโมบายล์ไร้สายของเอไอเอส ทั้งการลงทุน 3จี อีกกว่า 30,000 ล้านบาท หลังจากลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อทำให้มีสถานีฐานทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอีก 29,000 สถานี และไม่ใช่เพียงแค่การให้บริการบนพื้นดิน แต่ยังรวมถึงพื้นน้ำและอากาศ ซึ่งเอไอเอสนำสัญญาณของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) มาร่วมใช้งาน เพื่อให้บริการในเขตพื้นที่ที่เป็นทะเล และยังร่วมกับสายการบินนกแอร์เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าขณะเดินทางด้วยเครื่องบินอีกด้วย โดยในอนาคตจะมีความร่วมมือกับสายการบินอื่นๆ ต่อไป พร้อมกันนี้ บริษัทยังเตรียมพัฒนาไวไฟในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่าซุปเปอร์ไวไฟ ซึ่งสามารถให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดถึง 650Mbps รวดเร็วกว่าเทคโนโลยี 4จี เพื่อรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วตามความต้องการของลูกค้า
ส่วนธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์นั้น เอไอเอสมองว่าเป็นการทำฟิกซ์ บรอดแบนด์ในช่วงเวลาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด เนื่องจากอินเทอร์เน็ตกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมบูรณ์อย่างที่สุด ทั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยี ซึ่งผู้บริโภคกว่า 5 ล้านครัวเรือนยังคงใช้เทคโนโลยีรูปแบบเก่าอย่าง ADSL ประกอบกับเทคโนโลยีสายไฟเบอร์ ออพติกกว่า 120,000 กิโลเมตร พร้อมให้บริการซึ่งสามารถให้บริการดาวน์โหลดด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1Gbps เชื่อว่าจะทำให้เอไอเอสมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอย่างแน่นอน และคาดว่าภายใน 5 ปีจะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว่า 10 ล้านครัวเรือน และทำให้เอไอเอสกลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่ของประเทศไทย
