เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงมาดริด ประเทศสเปน "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงขวัญใจชาวไทย มีกำหนดเดินทางกลับสู่ประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG949 โดยมีกลุ่มคนไทยในกรุงมาดริดร่วมส่งเจ้ามุ้ยอย่างอบอุ่น....

    
29 ม.ค. ความเคลื่อนไหวของ ธีรศิลป์ แดงดา หลังจากที่ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักฟุตบอลไทยคนแรก ที่ได้มาค้าแข้งใน ลา ลีกา สเปน กับสโมสร อูเด อัลเมเรีย เป็นเวลา 6 เดือนด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นนักเตะไทยคนแรก ที่ยิงประตูได้ในเกมอย่างเป็นทางการบนแผ่นดินสเปน ล่าสุด ธีรศิลป์ แดงดา ได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทยแล้ว ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG949 เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวเดินทางมาถึงสนามบินบาราฆาส ในช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. ก่อนจะทำการเช็คอิน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของสายการบินไทยเข้ามาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง

หลังจากนั้นกลุ่มคนไทยที่มาทำงานและอาศัยอยู่ในกรุงมาดริด ประเทศสเปนได้เดินทางมาส่งกองหน้าวัย 26 ปี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น จากนั้นเจ้ามุ้ยได้ร่วมถ่ายรูป และแจกลายเซ็นให้อย่างเป็นกันเอง ซึ่งคนไทยกลุ่มนี้ได้เปิดเผยว่า ติดตามข่าวสารของมุ้ยมาโดยตลอดผ่านทางเว็บไซต์และสื่อต่างๆในเครือสยามสปอร์ต เมื่อรู้ว่ามุ้ยได้เดินทางมาค้าแข้งกับอัลเมเรียก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่มีคนไทยสามารถมาถึงยังจุดนี้ได้ และยังเคยเดินทางไปเชียร์เจ้ามุ้ยแบบติดขอบสนามมาแล้ว ในเกมโกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกที่สอง ที่ อัลเมเรีย ออกมาเยือน เคตาเฟ่ พร้อมกับกล่าวต่อว่าหลังจากนี้ก็จะขอตามให้กำลังใจเจ้ามุ้ยต่อไป ทั้งกับการกลับไปเล่นให้กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และกับทีมชาติไทย

นอกเหนือจากคนไทยกลุ่มดังกล่าวแล้ว เจ้ามุ้ย ยังได้รับความสนใจจากชาวสเปนบางราย ที่จดจำได้ว่ามุ้ยเป็นนักเตะของอัลเมเรีย เข้ามาร่วมขอถ่ายรูปด้วยเช่นกัน รวมถึงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินไทย ต่างก็ขอเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับกองหน้าทีมกิเลนผยองกันอย่างอบอุ่น

ก่อนที่จะขึ้นเครื่องกับสู่เมืองไทย เจ้ามุ้ย ได้เปิดเผยว่า สำหรับตนเองแล้วตลอด 6 เดือนที่ได้มาค้าแข้งในสเปน ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่หาไม่ได้จากที่ไหน และตนก็เชื่อว่ามันยากที่จะมีโอกาสแบบนี้อีก ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีกับสิ่งที่ได้พบเจอที่นี่ และอยากจะเก็บมันไว้ในความทรงจำของตนเอง

นอกจากนี้ ธีรศิลป์ แดงดา ยังเผยถึงเป้าหมายในการกลับไปเล่นให้กับทีมกิเลนผยองด้วยว่า ตนเองจะพยายามทำให้ต้นสังกัดได้มีลุ้นในทุกถ้วยที่ลงแข่ง ตนรู้สึกว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา เมืองทองห่างหายจากความสำเร็จและไม่ได้มีลุ้นอะไร ซึ่งตนก็หวังว่า ทั้งตัวเอง, เพื่อนร่วมทีม และผู้บริหารของสโมสรจะมีมุมองไปในทิศทางเดียวกันในการที่จะนำทีมไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งตนเองยอมรับว่า ยังคงรู้สึกชื่นชอบกับบรรยากาศที่มีความสุขในช่วงจบฤดูกาล และก็อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีกครั้งในปีที่ตนจะกลับไปเล่น รวมถึงปีต่อๆ ไปด้วย