เพลิงฉิมพลี วันที่ 28 กันยายน 2557
 


เพลิงฉิมพลี วันที่ 28 กันยายน 2557


เพลิงฉิมพลี วันที่ 28 กันยายน 2557
“แต่เค้ากลับปางไม้ไปแล้ว ไม่เห็นจะสนใจพี่เลย”

“ไม่ต้องรีบหรอก เดี๋ยวก็ต้องได้เจอกันอีก คุณแม่สอนมาหมดแล้ว”

“เรื่องจับผู้ชาย” ดาวเด่นต่อคำ

“ดาวเด่น น้องอย่าพูดหยาบคาย คุณแม่อยากให้พี่มีคู่ชีวิตที่เหมาะสมกันต่างหาก”

“ดาวไม่ชอบ พี่แขไขแต่งงานเมื่อไหร่ ดาวเด่นก็จะเป็นหมาหัวเน่า”

ดาวเด่นเบะปาก อารมณ์เด็กกลัวถูกทิ้ง แขไขกอดปลอบน้อง

“ไม่หรอกจ้ะ พี่ก็ยังรักน้องเหมือนเดิม แต่งงานกันแล้ว พี่จะให้พี่ณไตรพาน้องดาวไปรักษาตัวที่เมืองนอกนะ น้องดาวจะได้หายจากโรคเลือดจาง”

ดาวเด่นยังไม่รู้สึกดีขึ้นเพราะหวงพี่สาว ตรงข้ามกับแขไขที่ยิ้มหวานเต็มไปด้วยความฝัน...เนื้อนางมาตักน้ำในลำธาร เห็นหนานไตรเดินตรงเข้ามาและยื่นหนังสือ Pride and Prejudice ของ Jane Austen ส่งให้เนื้อนาง

“เมื่อคืนผมจัดของบนเรือน เจอมันตกอยู่ในตู้ เห็นเป็นภาษาอังกฤษ เลยเอามาให้คุณ คำฝายบอกว่าคุณชอบอ่านหนังสือ”

หนานไตรดึงมือเนื้อนางมาเอาหนังสือวางลงไปในมือ เนื้อนางจะดึงมือกลับ หนานไตรกุมมือเนื้อนางไว้

“อ่านให้ผมฟังหน่อยสิ เนื้อนาง”

“ปล่อยมือฉันก่อน อย่าทำแบบนี้ พวกเราถือ”

“ผมอยากให้คุณอ่านให้ผมฟังบ้าง”

“ก็ได้ ๆ ฉันจะอ่านให้คุณฟัง”

เนื้อนางหันไปเห็นหนานไตรเข้ามาใกล้แบบไม่ทันรู้ตัว ก็ขยับถอยห่างและหาทางจะหนี

“ฉันลืมไป ต้องไปเก็บสมุนไพรแล้ว วันหลังค่อยอ่านให้ฟังละกันนะ”

หนานไตรก้าวพรวดไปดักหน้าเนื้อนาง

“ทำไมคุณต้องคอยหนีผม เนื้อนาง ผมทำให้อะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า”

“เปล่าสักหน่อย”

“เปล่า แต่เดินหนีตลอด ผมอยากเป็นเพื่อนคุณจริง ๆ นะ เนื้อนาง”

แสงคำก้าวเข้ามาเห็นเนื้อนางใกล้ชิดกับหนานไตร ความหึงแล่นทั่วร่างเดินเข้ามายืนข้างเนื้อนาง

“พ่ออุ๊ยหมื่นหล้าให้มาตาม”

หนานไตรมองแสงคำที่กุมมือเนื้อนาง แล้วพูดขึ้นทันที

“ผมคุยกับเนื้อนาง ผมจริงใจ อยากเป็นเพื่อนกับทุกคนที่นี่”

“นายเพิ่งมาใหม่ ยังไม่รู้ว่าเราต้อนรับเพื่อนกันยังไง”

“ก็บอกผมสิ แสงคำ ผมจะได้รู้ว่าคนในปางนี้ จะยอมรับผมเป็นเพื่อนหรือเปล่า”

เนื้อนางมองหนานไตรกับแสงคำที่จ้องตากันอย่างไม่สบายใจ

เสียงกลองตีดังจากคนงานชายเป็นจังหวะเร้าใจ คนงานชายหญิงต่างวิ่งมาที่ลานปางเพื่อดูหนานไตรต่อสู้กับแสงคำ กองเชียร์เริ่มแบ่งเป็นสองฝ่าย เนื้อนางขยับเข้าไปหาหมื่นหล้า บอกอย่างไม่สบายใจ

“อ้ายแสงคำท้าหนานไตร”

“ไม่ต้องห่วงหรอกเนื้อนาง ถ้าหนานไตรอยากเข้ากับพวกเราได้ เปิ้นก็ต้องทำให้ทุกคนยอมรับในความเก่งของเปิ้น”

หนานไตรกับแสงคำเดินออกมา คนงานส่งเสียงเฮเมื่อเห็นสองคนเผชิญหน้ากัน หมื่นหล้าออกมาบอกกติกา แสงคำต่อสู้ด้วยท่วงท่าโบราณ ส่วนหนานไตรหลบว่องไวแล้วสวนกลับอย่างมวยสากล สองฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ หนานไตรเป็นฝ่ายแพ้เพราะพละกำลังและชั้นเชิงของแสงคำไม่ได้

หนานไตรเดินขึ้นมาบนเรือนด้วยความหงุดหงิด รัญจวน สร้อยฟ้า กำปุ้ง ถือผ้าซับเหงื่อ และลูกประคบสมุนไพรตามเข้ามา

“ช้ำไปทั้งแขนเลย รัญจวนทายาให้นะ”

“สร้อยฟ้าประคบให้ดีกว่า”

“แกกลับไปดูแสงคำเลยนังสร้อยฟ้า แต่ก่อนชอบนักชอบหนา กำปุ้งนวดยาให้นะจ๊ะ”

“ไม่ต้อง”

สามสาวสะดุ้ง หนานไตรพยายามเก็บอารมณ์

“ออกไปก่อนเถอะ ผมอยากอยู่คนเดียว”

ม่อนดอยทั้งลากทั้งผลักสามคนให้ออก หนานไตรนึกถึงภาพที่แสงคำจูงเนื้อนางแล้วแค้นใจ...ขณะที่ แสงคำหวั่นกลัวว่าเนื้อนางจะหลงรักหนานไตร ต้องการตัดไฟแต่ต้นลมจึงไปสารภาพกับหมื่นหล้าว่า เขารักเนื้อนาง

“ความรักมันเรื่องหัวใจของคนสองคน ข้าจะบังคับใจเนื้อนางได้ยังไง ไอ้แสงคำ”

“ฉันสัญญา ไอ้แสงคำคนนี้ จะไม่ทอดทิ้งเนื้อนาง จะไม่ทำให้เนื้อนางน้ำตาตก เหมือนที่นายฝรั่งทิ้งแม่หญิงจันทร์เป็ง ฉันสัญญาพ่ออุ๊ย ไอ้แสงคำจะรักจะเทิดทูนเนื้อนางคนเดียว”



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.