“ เต้ย พงศ์กร เมตตาร์กานนท์ ” หนุ่มคนนี้เรารู้จักเขาจากซีรี่ย์ดัง เมื่อปีที่แล้ว สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายรัชชานนท์ ทำให้ เต้ย พงศกร กลายเป็นหนุ่มฮอตและมีแฟนคลับมากมายขึ้นมาอีกคน และในวันนี้ เต้ย ก้าวข้ามคำว่าตัวรองขึ้นมาเป็นตัวนำ อย่างเต็มตัวแล้วในละครเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ที่ตอนนี้กำลังถ่ายทำกันอยู่ และคาดว่าภายในปีนี้ เราจะได้เห็นผลงานของหนุ่มคนนี้อีกครั้งแน่นอน และเพื่อไม่ให้แฟนคลับคิดถึงกันนานเกินไป วันนี้เราจะยกพื้นที่ตรงนี้ให้หนุ่มเต้ย เพื่อเอาใจแฟคลับให้หายคิดถึงกัน เอาละ หนุ่มเต้ย นั่งยิ้มฟันขาว รอเราอยู่แล้ว ไปคุยกับเขาเลยดีกว่า
“ตัวรอง”
“เต้ย พงศกร” จากพระ รองสู่บทบาทพระเอก
“แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากบทบาท “บักจ่อย”ในซีรีส์ละครชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายรัชชานนท์” บวกกับความเป็นหนุ่มหน้าไทย เลยทำให้ตอนนี้ “เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์” ขยับจากบทพระรองมาเป็นพระเอกเต็มตัวในละครประวัติศาสตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์และบางระจัน”
บทบาทบักจ่อยถือว่าประสบความสำเร็จไหม?
“ผมก็ไม่คิดว่ามันจะประสบความสำเร็จขนาดนี้เหมือนกันครับ ต้องขอบคุณพี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ พี่แดง-ธัญญา และ พี่แต้ว-ณฐพร เพราะพี่แต้วเล่นดีมาก แล้วเหมือนว่าเขาอุ้มนักแสดงใหม่ในเรื่องไม่ว่าจะเป็นผม พี่พลอย-ภัทรากร พี่ท็อป-จรณ, พี่บอม-ธนิน, พี่เชน-เตชินท์”
“ตัวนำ”
จากตัวรองมาเป็นตัวนำในเรื่องพันท้ายนรสิงห์ ความกดดันแตกต่างกันไหม?
“ที่จริงตอนที่ถ่ายละครเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายรัชชานนท์ ก็ถ่ายเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ควบคู่กันไปด้วย ซึ่ง ท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เคยบอกไว้ว่าการเล่นหนังมันคือการทำงานเป็นทีม เราต้องช่วยกัน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งเล่นพุ่งไปคนเดียวเลย หนังเรื่องหนึ่งก็จะพัง ต้องไปพร้อมกัน ช่วยเสริมกันไม่ว่าอะไรก็ตาม แล้วการเล่นหนังหรือละครที่เคยเอามาทำหลายเวอร์ชั่น ไม่อย่างนั้นพอเล่น ๆ ไปสักพัก จะเกิดอาการเฮ๊ย คนเก่าเขาเคยเล่นแบบนี้ไว้นะ ดังนั้นถ้าเราจะเล่นให้เป็นเวอร์ชั่นของเรา ห้ามกลับไปดูเวอร์ชั่นเก่า ๆ เด็ดขาดมันเป็นหลักของการแสดง”
ถ่ายทำไปถึงไหนแล้ว
“ถ่ายเสร็จไป 6 เดือนแล้วครับ ตอนนี้รอออนแอร์อยู่”
แล้วมีเรื่องอื่น ๆ อีกไหม?
“ตอนนี้กำลังถ่ายทำเรื่องบางระจันอยู่ครับ แล้วก็มีภาพยนตร์เรื่องเลิฟอีท เล่นคู่กับ ฟาง เฟย์ ฟาง แก้ว น่าจะเข้าฉายช่วงเดือน ต.ค. นี้ เป็นหนังแนวรักโรแมนติก อบอุ่น ๆ เข้ากับฤดูหนาว”
“ชื่อเสียง”
คนรู้จักเยอะขึ้น ชีวิตเปลี่ยนไปไหม?
“เปลี่ยนครับ เมื่อก่อนเวลาจะออกจากบ้านก็จะแต่งตัวสบาย ๆเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ออกมาซื้อของข้างนอกไม่มีใครสนใจ แต่ตอนนี้ใส่ตามสบาย ๆ แบบนั้นไม่ได้แล้ว ใช้วิธีแวะซื้อหลังจากเสร็จงานแล้วค่อยเข้าบ้านเอา การที่มีคนรู้จักเยอะขึ้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย บางทีเราก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะเป็นคนสาธารณะแล้ว ถ้าเกิดทำอะไรที่ไม่ดีออกไปแล้วเด็ก ๆ อาจจะเอาเป็นแบบอย่างได้”
คิดว่ามาไกลเกินกว่าที่ฝันไว้ไหม?
“ไกลมากครับ จริง ๆ ผมอยากเป็นทันตแพทย์ เป็นโปรกอล์ฟ เภสัชกร ไม่เคยคิดที่อยากจะมาเป็นนักแสดงเลย แต่ที่มาเป็นนักแสดงได้เพราะคุณแม่ให้ประกวดเวที ดิ ไอดอล โปรเจคท์ 2 ซึ่งเป็นโครงการเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ของช่อง 3 ได้รางวัลชนะเลิศมาครับ คุณแม่ก็ดีใจที่ลูกทำสำเร็จ ก่อนหน้านี้ตอนซีซั่น 1 มีคนอำนาจเจริญเข้ารอบด้วย แม่ก็เลยคิดว่าถ้าซีซั่น 2 คนอำนาจเจริญก็น่าจะได้เข้ารอบอีก ก็เลยส่งเข้าประกวด ตอนประกวดนี่แม่ทำป้ายโฆษณาเหมือนป้ายหาเสียง ส.ส. ให้เลย หลังจากได้รางวัลมาก็เลยทำให้จุดมุ่งหมายเปลี่ยน ยิ่งได้เล่นคุณชายรัชชานนท์แม่ยิ่งเฝ้าติดจอ ชวนคนแถวบ้านดูด้วยกันหมด หลังจากนั้นมาผมก็เริ่มชอบการแสดง แล้วก็ได้เรียนศิลปะการแสดงด้วยครับ”
“แรงขับ”
คิดว่ามาอยู่ตรงนี่ได้เพราะใคร?
“ครอบครัวครับ คุณแม่เลยคนแรก คอยผลักดัน คอยสนับ สนุนแล้วก็ให้กำลังใจ บริษัทออร์สตาร์ต้นสังกัด ผู้พันเบิร์ดที่ชวนผมไปแคสบทพันท้ายนรสิงห์ ท่านมุ้ย หม่อมน้อย พี่อ๊อฟ พี่แดง พี่หน่อง ผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้โอกาสผม”
มองอนาคตตัวเองในวงการบันเทิงยังไง?
“อันนี้ยังไม่รู้เพราะวงการบันเทิงมันไม่แน่นอน ผมมองว่าในเมื่อเขาให้โอกาสผมมาแล้ว ผมก็ต้องทำให้เต็มที่ ยังมีคนอีกเยอะที่รอโอกาสที่จะก้าวเข้ามาตรงนี้ ในเมื่อเรามีโอกาสแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด พยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คอยหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แอ๊คติ้งมันไม่มีคำว่าสิ้นสุด อีกไม่นานก็จะมีน้อง ๆ นักแสดงรุ่นใหม่ก้าวเข้ามาในวงการ”
“สาว สาว สาว”
ความรักเป็นยังไงบ้าง มีแฟนไหม?
“ตอนนี้ไม่มีครับ ไม่มีใครเป็นพิเศษเลยครับ มีคุย ๆ กันบ้าง แต่จะเป็นเพื่อนกันซะส่วนใหญ่ ความรักที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นป๊อปปี้เลิฟ เป็นความรักแบบเด็ก ๆ ที่ยังไม่ได้คิดอะไรจริงจัง มีทั้งสมหวัง ผิดหวัง ผมทิ้งเขาบ้าง เขาทิ้งผมบ้าง ไปกันไม่ได้บ้าง”
เจ้าชู้หรือเปล่า?
“เรื่องความเจ้าชู้ ผมว่าเป็นปกติของผู้ชายทุกคนที่ต้องมีเรื่องแบบนี้บ้าง”
แล้วแฟนล่าสุดมีเมื่อไหร่?
“ตอน ม.6 เข้าปี 1 ครับ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวสวิตเซอร์แลนด์ ผมชอบเขาตรงที่เขาดูมีเสน่ห์ ในแววตา ในคำพูด อีกอย่างเขาไม่จู้จี้จุกจิกเหมือนคนไทย ผมว่าเขาแฟร์ ๆ ดี”
แสดงว่าสเปกเต้ยต้องฝรั่งเท่านั้น?
“ไม่หรอกครับ คนไทยก็ได้ ตัวเล็ก ๆ น่ารัก ผิวขาวหน่อยก็ดี เพราะผมดำแล้ว ถ้าดำเหมือนกันคงไม่ไหว (หัวเราะ)”
เวลาจีบสาวเต้ยจีบยังไง?
“ต้องคืบคลานเข้าไปทีละนิด ๆ รู้จักเพื่อนเขาก่อน รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มาจากไหน นิสัยเป็นยังไง ทำความรู้จักกันทีละนิด คุยกันเป็นเพื่อนก่อน แล้วค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์”
เต้ยเป็นคนโรแมนติกไหม?
“ก็มีบ้างครับ เต้ยชอบพูดค่า รู้แล้วค่า น่ารักค่า เป็นผู้ชายถ้าแข็งกระด้างอย่างเดียว เดี๋ยวผู้หญิงเขาหนีหมด (หัวเราะ)”
เป็นคนโลกส่วนตัวสูงไหม?
“ไม่นะครับ เวลาทำอะไรก็จะทำกับน้องตลอด ดูหนัง ออกกำลังกาย เป็นคนไม่ชอบอยู่คนเดียวมากกว่า ต้องหาอะไรทำตลอดเวลา ทำในสิ่งที่เรายังไม่เคยทำพวกยิงปืน อะไรประมาณนี้”
คาดหวังกับผลงานที่กำลังจะออกมาไหม?
“คาดหวังให้พันท้ายนรสิงห์ออนแอร์เร็ว ๆ คนดูชอบ เพราะผมทำเต็มที่ ทุ่มสุดตัวเลย และภาพยนตร์ก็อยากให้เข้าฉายเร็ว ๆ เรื่องรายได้ไม่คาดหวัง ขอแค่มีคนชอบพอแล้วครับ”
อิ่มใจและหายคิดถึงกันไปแล้วสำหรับหนุ่มเต้ย พงศกร ส่วนเสาร์หน้าแน่นอนเรายังมีหนุ่ม ๆ มานั่งคุยกันที่เดิม แต่จะเป็นใครนั้น สาว ๆ รอลุ้นกันนะจ๊ะ.
กาญจนา สิทธิเม่ง : รายงาน
