ญี่ปุ่นหัวใสประดิษฐ์แว่นคุมอารมณ์
 


ญี่ปุ่นหัวใสประดิษฐ์แว่นคุมอารมณ์


 ญี่ปุ่นหัวใสประดิษฐ์แว่นคุมอารมณ์
รับชมข่าว VDO -->





ขณะที่กูเกิลพัฒนาแว่นอัจฉริยะที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างกูเกิลกลาส ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากญี่ปุ่นได้พัฒนาแว่นตาทางเลือกอีกชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยให้ผู้สวมใส่แสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมได้

แว่นตาที่ศาสตราจารย์ฮิโรทากะ โอซาวะ จากมหาวิทยาลัยสึกุบะ ประเทศญี่ปุ่น คิดค้นขึ้นนั้น ไม่ได้เน้นไปที่สิ่งที่ผู้สวมใส่มองเห็นเหมือนกับที่แว่นอัจฉริยะควรจะเป็น แต่กลับเน้นไปที่การแสดงผลดวงตาแอนิเมชั่นแทนที่ดวงตาจริงของผู้สวมใส่ เพื่อสร้างการตอบสนองทางอารมณ์เสมือนจริงขึ้นขณะที่ผู้สวมใส่อาจไม่ได้มีสมาธิจดจ่อกับผู้ที่โต้ตอบด้วยเท่าไรนัก

แว่นตาตัวต้นแบบที่แม้ว่าจะใส่แล้วดูขำขันสักหน่อย ประกอบไปด้วย จอโอแอลอีดี 2 จ่อติดตั้งที่เลนส์ทั้งสองข้าง โดยจอแสดงผลดังกล่าวควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ผ่านการเชื่อมต่อไร้สาย และมีกล้องสำหรับตรวจจับสภาพแวดล้อมมุมกว้าง

ในตัวแว่นประกอบด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและการทรงตัวติดตั้งอยู่ที่ขาแว่นข้างหนึ่งเพื่อตรวจจับพฤติกรรมของผู้สวมใส่ ขณะที่อีกข้างหนึ่งบรรจุแบตเตอรีเพื่อให้พลังงาน

การตอบสนองในแว่นตัวต้นแบบดังกล่าวสามารถแสดงผลการกะพริบตา เมื่อผู้สวมใส่พยักหน้า แสดงผลกะพริบตาถี่ๆ เมื่อผู้ใส่จับมือกับคู่สนทนา ขณะที่เมื่อผู้ใส่ก้มหน้าแว่นจะแสดงผลดวงตามองขึ้นด้านบน นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้าในคอมพิวเตอร์ยังสามารถตรวจจับผู้ที่มองมายังผู้สวมใส่ได้ขณะที่แว่นตาจะแสดงผลให้ดวงตาบนจอเคลื่อนไหวและมองกลับไปยังผู้ที่มองมาได้อีกด้วย

ศาสตราจารย์โอซาวะระบุว่า แนวคิดการสร้าง "หุ่นแสดงอารมณ์" ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานของนักสังคมวิทยาชาวอเมริกันที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางอารมณ์ของผู้ทำงานบริการที่จะต้องใช้สีหน้าและท่าทางในการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดี หรือ "อีโมชันนอล เลเบอร์" นั่นเอง โดยอุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ทำงานบริการ เช่น พยาบาล พนักงานเสิร์ฟ อาจารย์ นักบำบัด และอื่นๆ สามารถแสดงอารมณ์ผ่านงานบริการได้อย่างมืออาชีพ

แม้ว่าศาสตราจารย์โอซาวะเองจะยอมรับว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีความแปลกสำหรับผู้พบเห็น แต่อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการโต้ตอบทางอารมณ์จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน กลับเห็นว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะสามารถช่วยแก้ปัญหาในการรับรู้อารมณ์ระหว่างคนจากวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมตะวันออกได้ หากมีการพัฒนาอุปกรณ์ต่อไป

ขณะที่ศาสตราจารย์โอซาวะเตรียมที่จะขยายการวิจัยออกไปด้วยการสร้างจอที่เลียนแบบปากของผู้ใส่เพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ สอดคล้องกับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าปากของมนุษย์มีอิทธิพลต่อการสื่อความหมายทางอารมณ์มากกว่าดวงตาของมนุษย์

หน้า 26 มติชนรายวัน ฉบับวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2557



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.