อย่าลืมฉัน วันที่ 26 เมษายน 2557
 


อย่าลืมฉัน วันที่ 26 เมษายน 2557


อย่าลืมฉัน วันที่ 26 เมษายน 2557

เมื่ออยู่คนเดียวที่บ้าน เขมชาติก็ตกเข้าสู่ ภวังค์ความคิดตนเอง คิดถึงตอนที่อยู่กับสุริยงที่     สวิตเซอร์แลนด์แล้วหงุดหงิดงุ่นง่าน ลุกขึ้นเดินไป   ที่ระเบียง เดินกลับเข้ามาในห้องนอน ทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง เอามือก่ายหน้าผาก “โธ่เว้ยยย!!!” ร้องระบายอารมณ์ออกมาอย่างหงุดหงิดกับเหตุการณ์      ที่ผ่านมา

เช้าวันรุ่งขึ้น เขมชาติมาที่บริษัท และพบว่าสุริยงลาออกไปแล้ว เขมชาติใจเสีย และหงุดหงิด มาก ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจเหวี่ยงไปหมด ด้านสุริยงพยายามหางาน บังเอิญน้องฮันนี่โทรฯหาและนัดเจอกัน เด็ก ๆ ต่างสนุกสนาน ชนะซึ่งเป็นคนวางแผนให้ลูกโทรฯหาสุริยงยิ้มกว้างเมื่อเห็นสุริยงอีกครั้ง

ชนะรู้ว่าสุริยงเพิ่งลาออกจากงานและกำลังหางานอยู่ จึงชวนสุริยงมาเป็นผู้จัดการรีสอร์ทของตนเองที่ต่างจังหวัด

“สุเคยทำแต่งานเลขาฯ ทำไมคุณชนะถึงคิดว่าสุจะทำงานนี้ได้ล่ะคะ”

“ตอนเราไปถ่ายแบบด้วยกัน ผมเห็นวิธีการทำงานของคุณ ที่ทั้งละเอียด เฉียบขาด แล้วยังดีลกับทุกคนได้ดี ผมมั่นใจว่าคุณทำได้”

สุริยงยิ้มน้อย ๆ รับคำชมของชนะอย่างมีมารยาท “ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้โอกาสสุ แต่สุคงต้องขอคิดดูก่อน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ผมรอได้ ถ้าตัดสินใจได้เมื่อไหร่บอกผมได้ทันทีนะครับ”

สุริยงยิ้มตอบให้กับน้ำใจของชนะ

  เอื้อมาคุยกับเกนหลงเรื่องโรงแรมแห่งใหม่ และแปลกใจที่เกนหลงไม่มีความคืบหน้าเรื่องการจัดงานแต่งงานเลย เกนหลงบอกตั้งแต่เขมชาติมาคุยกับพ่อวันก่อนก็ไม่ได้คุยกันเลย โทรฯ ไปก็ไม่รับ เกนหลงน้อยใจเหมือนเธอเป็นของตาย เอื้อไม่ชอบใจนักบอกในเมื่อตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ก็ควรจะต้องสนใจกันมากกว่านี้

เกนหลงมองเอื้อด้วยความชื่นชม “ใครได้พี่เอื้อไปเป็นสามีนี่ถือว่าโชคดีมากเลยนะคะ” ทิ้งหัวมาซบที่ไหล่ อ้อนเหมือนน้องสาว เอื้อปรายตามอง ยิ้มนิด ๆ เกนหลงก็เอามือมาโอบไหล่เหมือนปลอบใจ “ถ้าเกนเป็นคุณสุนะ....เกนไม่คิดมากเลย .. ตีหัวลากเข้าถ้ำไปนานแล้ว”

เอื้อหัวเราะออกมาเลย “ฮ่า ๆ ๆ ๆ นี่คุณหนูเกนหลงพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอเนี่ย”

“พี่เอื้อเห็นคุณหนูเกนหลงแบบไร้สติมาแล้ว แค่นี้รับได้สบายมาก ฮ่า ๆ” เกนหลงหัวเราะร่วน เอื้อจับหัวเกนหลงด้วยความเอ็นดู “ถ้าพี่เป็นเขมชาติ....พี่ก็จะไม่คิดมาก และไม่ทำงานอะไรทั้งสิ้นในตอนนี้..จะอยู่ข้าง ๆ เรา คอยช่วยเราจัดงานหมั้นให้ดีที่สุด”

เกนหลงฟังแล้วเจ็บจี๊ดได้แต่ถอนใจออกมาเบา ๆ เอื้อก้มลงมามองแล้วก็สงสาร โอบไหล่อีกข้างไว้อย่างอบอุ่น เอื้อกับเกนหลงนั่งอิงพิงกัน โดยไม่รู้ว่าแอบมีความรู้สึกที่มากกว่านั้นเติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ

สุริยงตัดสินใจที่จะรื้อแปลงต้นฟอร์เก็ตมี น็อตออก จะได้ไม่หลงเหลือเยื่อใยความหลังอีกต่อ    ไป เอื้อและเกนหลงมาหาสุริยงที่บ้าน สุริยงอึ้งไปแล้วตัดสินใจเผชิญหน้า เกนหลงมาขอบคุณสุริยงที่ช่วยจัดเซอร์ไพร้ส์ให้เขมชาติขอแต่งงานที่สวิส สุริยงฝืนยิ้มเจื่อน ๆ กับคำขอบคุณที่จริงใจนั้น แต่ลึกลงไปคือความเจ็บปวดที่โดนเขมชาติหักหลัง เอื้อเห็นสุริยงกำลังรื้อแปลงฟอร์เก็ตมีน็อตก็ถาม เพราะสุริยงรักแปลงดอกไม้มาก สุริยงบอกอยากจะปลูกอย่างอื่นดูบ้าง เกนหลงเห็นว่าสวยดีเลยขอ เพราะยังไงสุริยงก็ทิ้งอยู่แล้ว

เกนหลงเอาฟอร์เก็ตมีน็อตมาลงที่บ้านเขมชาติ เขมชาติกลับมาถึงบ้านก็อึ้งไป ยิ่งรู้ว่าสุริยงให้เกนหลงก็ยิ่งโกรธ ไปอาละวาดสุริยงที่บ้านเลย สุริยงเห็นเขมชาติก็จะเดินเข้าบ้าน ไม่อยากเจอ เขมชาติตามเข้ามาดึงมือไว้ สุริยงบอกให้ปล่อย

“ผมไม่ปล่อย เพราะคุณไม่ได้อยากให้ผมปล่อยจริง ๆ .. บางทีคุณอาจจะอยากให้ผมทำมากกว่าจับมือด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้น คงไม่ให้คุณเกนเอาดอกไม้พวกนั้นไปปลูกถึงในบ้านผม”

สุริยงสะบัดมือออกอย่างแรงเพราะไม่รู้เรื่อง แต่เขมชาติไม่เชื่อ “ไม่ต้องมาทำหน้าซื่อ แสนดีเป็นกุลสตรีตัวอย่าง ผมไม่เชื่อ! คุณหลอกใช้คุณเกนกับดอกฟอร์เก็ตมีน็อตเป็นสะพานทอดมาหาผม”

สุริยงสวนเลย “อย่าเอามาตรฐานของตัวเองมาวัดคนอื่น ! ฉันไม่ใช่คนที่ชอบสร้างเรื่อง บีบน้ำตา พูดจาโกหก หลอกใช้คนอื่นเหมือนคุณ! และไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะต้องทอดสะพานเพื่อเดินลงไปในนรก!”

เขมชาติจี๊ด สวนกลับด้วยโทสะ “แต่นรกขุมนี้ ก็เคยพาคุณขึ้นสวรรค์มาแล้ว!!”

ปรี๊สสสแตก จี้ใจดำ สุริยงฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเขมชาติอย่างแรง เพี้ยะ!! จนหน้าหัน บรรยากาศตึงเครียดสุด ๆ “ต่ำ สกปรกที่สุด! อย่ามาพูดแบบนี้ในบ้านของฉัน ! ออกไปได้แล้ว และอย่ามายุ่งกับฉันอีก ฉันไม่เคยคิดจะเดินกลับเข้าไปในชีวิตคุณ..เพราะ “ฉันเกลียดคุณ” และคุณเองก็คงจะ “เกลียด” ฉันไม่น้อยไปกว่ากัน ในเมื่อเราเกลียดกัน ก็ควรจะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง อย่ามาสร้างเวรสร้างกรรมให้กันอีกเลย ถ้าสิ่งที่คุณได้ไปมันยังไม่พอ ฉันจะทำสังฆทานเพิ่มไปให้ ขอจบกันในชาตินี้ ชาติหน้าอย่ามาเจอกันอีก!”

เขมชาติเจ็บ จุก แววตาอ่อนลง เห็นโกรธจริง “วดี...” สุริยงสวนอีก “สุริยาวดีได้ตายจากโลกนี้นับตั้งแต่อ่านจดหมายฉบับนั้น .. คุณฆ่าและฝังเธอไปเรียบร้อยแล้ว อย่าขุดซากของเธอขึ้นมาอีกเลย ออกไป และอย่ากลับมาอีก”

“ไม่จริง.. คุณอยากเจอผม.. ผมจะไม่ไปไหน จนกว่าคุณจะยอมรับความจริง” เขมชาติไม่ยอมรับ สุริยงบอกไม่ต้องการเจอเขมชาติอีกไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนก็ตาม และสะบัดหน้าเข้าบ้านไปเลย เขมชาติขยับจะตาม แต่ชื่นโผล่ออกมาขัดจังหวะ เขมชาติเลยเดินกลับออกไป ชื่นงงเต็กเลย

สุริยงขึ้นมาปิดห้องร้องไห้ ขณะที่เขมชาติขับรถออกไปได้สักพักก็ต้องจอด เพราะอารมณ์กรุ่นมาก ทุบพวงมาลัยรถอย่างแรงเจ็บใจ

  เกนหลงเจอกับวานิต้า ถูกวานิต้าพูดสุมไฟอีกว่าเขมชาติไม่ได้ดีอย่างที่เห็น เกนลงพยายามไม่คิดอะไร เอาเวลาเตรียมงานแต่งงานดีกว่า แต่ไหนจะเสื้อผ้า หน้าผม อาหาร รายชื่อแขก ช่างภาพ วิดีโอ อีกจิปาถะ ทำให้เกนหลงเครียด เลยคุยกับเขมชาติว่าต้องการหาผู้ช่วยมาช่วยจัดงาน และอยากให้สุริยงมาช่วย เพราะเคยช่วยจัดเซอร์ไพร้ส์มาแล้ว เขมชาติชะงักกึก คิด แล้วแววตาก็ฉายแววกระหยิ่ม บอกเพื่อเกนหลง เขาจะทำให้สุริยงยอมมาช่วยงานให้ได้ เขมชาติสั่งให้สมคิดและวิบูลย์ไปตามสุริยงมาช่วยจัดงานแต่งงาน โดยอ้างว่าเป็นความต้องการของเกนหลง สมคิดและวิบูลย์แปลกใจมาก

สุริยงตัดสินใจจะไปทำงานต่างจังหวัดที่รีสอร์ทของชนะ จึงบอกกับพ่อและแม่ แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร และจังหวัดไหน แถมยังต้องเดินทางพรุ่งนี้ อาทิตย์และนภาตกใจมาก วันรุ่งขึ้นชนะส่งรถมารับสุริยงที่บ้าน พอสุริยงไปปุ๊บ วิบูลย์ก็โทรฯมาตามปั๊บ ชื่นบอกสุริยงเพิ่งไปทำงานต่างจังหวัด

เขมชาติหัวเสียและหงุดหงิดมาก เมื่อวิบูลย์มาบอกว่าสุริยงไปทำงานต่างจังหวัด ที่ไหนก็ไม่รู้ แถมติดต่อไม่ได้เพราะมือถือไม่มี เนื่องจากเครื่องเก่าหายตั้งแต่ตอนไปสวิส เขมชาติสั่งกำชับให้วิบูลย์ตามสุริยงกลับมาให้ได้ ท่าทางของเขมชาติร้อนใจมาก สมคิดสังเกตท่าทางของเขมชาติที่มีพิรุธก็สงสัยมาก

  เอื้อมาบ้านสุริยงจึงเพิ่งรู้ว่าสุริยงตัดสินใจไปทำงานต่างจังหวัดที่ไหน กับใครก็ไม่รู้ อาทิตย์และสภาตัดสินใจถามเอื้อเรื่องที่สวิส เพราะตั้งแต่กลับมาก็พบว่าสุริยงดูเปลี่ยนไป ซึมเศร้า เอื้อบอกว่าสุริยงคงชอบทำงาน พอไม่มีงานทำเลยเซ็ง และว่าหากสุริยงโทรฯ กลับมาบอกให้ติดต่อเขาด้วย ขณะที่เขมชาติปรี๊สสสแตกที่วิบูลย์ยังไม่สามารถหาที่อยู่ของสุริยงได้ ทั้งที่เวลาผ่านไปหนึ่งวันแล้ว แม้วิบูลย์จะบอกว่าสุริยงยังไม่ติดต่อกลับที่บ้านเลย เขมชาติแอบแขวะว่าเอื้อน่าจะรู้ดี เขมชาติหงุดหงิดงุ่นง่านใจโดยไม่รู้ตัว

ที่รีสอร์ทริมทะเลของชนะ สุริยงมาเริ่มงานพร้อม ๆ กับความคิดที่จะเริ่มตนชีวิตใหม่ที่เป็นตัวขอตัวเองสักที ชนะพาสุริยงมาทำความรู้จักกับสถานที่ และพนักงาน พาชมส่วนต่าง ๆ ของรีสอร์ท

“เท่าที่เห็นก็ยังไม่น่าหนักใจอะไรค่ะ คุณชนะวางระบบของที่นี่ไว้ดีอยู่แล้ว”



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.