ศึกลูกหนัง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายของกลุ่ม อี เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ โปฮัง สตีลยาร์ด สเตเดี้ยม โปฮัง สตีลเลอร์ส จ่าฝูงของกลุ่ม เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากประเทศไทย

สถานการณ์ล่าสุด โปฮัง เจ้าถิ่น มี 11 แต้ม เข้ารอบแน่นอนแล้ว ขณะที่ บุรีรัมย์ มี 5 แต้ม เท่ากับ ซานตง ลู่เนิ่ง จากจีน และ เซเรโซ่ โอซาก้า จากญี่ปุ่น ซึ่งเกมนี้ บุรีรัมย์ จำเป็นต้องเก็บชัยชนะในนัดนี้ให้ได้ และต้องลุ้นให้ เซเรโซ่ โอซาก้า ไม่ชนะ ซานตง ลู่เนิ่ง จึงจะมีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป 

สำหรับเกมนี้ โบซิดาร์ บันโดวิช เฮดโค้ช ขนนักเตะชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย สุเชาว์ นุชนุ่ม, ธีราทร บุญมาทัน, คาเมโล่ กอนซาเลซ และเจย์ ซิมป์สัน

ด้านเจ้าบ้านเกมนี้ส่งผู้เล่นสำรองลงสนาม ประกอบด้วย  คิม จุนซู,  ลี จุน เซือก, ปาร์ค ซุน จู และ ซอน จุนโฮ

ครึ่งแรกทั้งสองทีมสู้กันอยู่ที่กลางสนาม โดยเจ้าบ้านเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า ขณะที่ บุรีรัมย์ มีโอกาสยิงไกลเพียงครั้งเดียวจาก จักรพันธ์ แก้วพรม ที่ลองยิงไกลในนาที 22 

นาที 35 สุรีย์ สุขะ ได้รับบาดเจ็บไหล่หลุดจากจังหวะปะทะกับ คัง ซางวู ต้องเปลี่ยนตัวเอา จิรวัฒน์ มัครมย์ ลงมาแทน

ครึ่งหลังนาที 47 บุรีรัมย์ ได้ลุ้นประตูจากลูกเตะมุมของ ธีราทร บอลเด้งออกมาเข้าทาง จักรพันธ์ ยิงสวนเข้าไปติดปลายมือของ คิม ดา โซล ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน

บุรีรัมย์ เดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง นาที 52 คาเมโล่ ได้บอลทางกราบขวาก่อนจะเปิไปที่เสาแรก เจย์ ซิมป์สัน ทิ้งตัวโขก บอลเบียดเสาแรกออกไป

นาที 59 โปฮัง เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะโต้กลับ มูน ชางจิน เลี้ยงจี้เข้าหาประตู ก่อนจะสับไกยิงไปติด ศิวรักษ์ นายทวารทีมเยือน บอลเด้งออกมา ลี กวางฮยอก ซ้ำไม่โดนบอล พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำ

นาที 72 โปฮังได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ มูน ชางจิน เปิดบอลไปที่เสาสอง คัง ซังวู วิ่งเข้ามาวอลเลย์แต่บอลเข้าข้างตาข่าย

ช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ พยายามทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องแต่ไม่สามารถเจาะเกมรับของ โปฮัง ได้ จบเกมเสมอกันไป 0-0 ส่งผลให้ บุรีรัมย์ ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้ เนื่องจาก เซเรโซ่ โอซาก้า บุกไปเฉือนชนะ ซานตง ลู่เนิ่ง 2-1 สรุปทีมที่เข้ารอบในกลุ่ม อี โปฮัง สตีลเลอร์ เข้ารอบในฐานะแชมป์ของกลุ่ม อี ส่วน เซเรโซ่ โอซาก้า เข้ารอบเป็นอันดับที่ สอง 

หลังเกม โบซิดาร์ บันโดวิช เฮดโค้ชบุรีรัมย์ กล่าวว่า ลูกทีมทำเต็มที่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ผลการแข่งขันไม่เป็นใจ ช่วงท้ายเกมเรามีโอกาสได้ประตูจากจังหวะฟรีคิกแต่ไม่สามารถเป็นประตูได้ ก็ขอยินดีกับ โปฮัง ที่สามารถเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้ หลังจากนี้เราต้องกลับไปพัฒนาทีมต่อไป

ด้าน ฮวง ซัน ฮง กุนซือของ โปฮัง กล่าวว่า แม้ว่าเกมนี้จะไม่ชนะแต่นักเตะเยาวชนที่ลงสนามสามารถทำได้ดี แม้ว่าช่วงแรกจะปรับตัวได้ไม่ดี แต่โดยรวมถือว่าน่าพอใจ แม้ว่าทีมจะเข้ารอบไปแล้วแต่เหตุผลที่ส่งนักเตะลงสนามในเกมนี้ก็เพื่อให้นักเตะเยาวชนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่