“มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้เปิดเผยล่าสุดถึงการเตรียมทีมสู้ศึก การแข่งขันฟุตบอลหญิง AFC Women’s Asian Cup 2014 (รอบสุดท้าย) ระหว่าง 14-25 พฤษภาคม 2557  ณ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ว่า การเตรียมทีมขณะนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจาก “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย  สระทองเวียน หัวหน้าผู้ฝึกสอน ควบคู่กับ ดร.ชาญวิทย์  ผลชีวิ+น ในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทีมและประธานในการกำกับดูแลด้านเทคนิคของทีมทั้งหมดครั้งนี้ แม้จะเหลือเวลาประมาณ 5 สัปดาห์ สำหรับการเตรียมความพร้อมของทีม ตนเชื่อว่าตลอดช่วงที่ผ่านมาการดูแล และเตรียมทีมเป็นไปตามขั้นตอน ตามโปรแกรมที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากคณะผู้ฝึกสอน แม้ทีมจะเจอกับอุปสรรคหลายๆ อย่าง แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกๆ คนที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญให้การทุ่มเทเตรียมความพร้อมครั้งนี้ของนักกีฬาเป็นไปตามโปรแกรมที่กำหนด ในระยะเวลาที่เหลือนี้ทีมนักกีฬาจะเน้นเทคนิคการเล่นเป็นทีม และการเตรียมเกมส์การเล่นทั้งในแบบเกมส์รุก และเกมส์รับที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือคู่ต่อสู้ทั้งในสายเดียวกัน เช่น จีน เกาหลีใต้ และพม่า พร้อมๆ กับต้องเตรียมแผนการเล่นเพื่อรับมือเจ้าภาพ คู่ปรับสำคัญของเราอย่างเวียดนามด้วยเช่นกัน กำลังใจของน้องๆ นักกีฬาตอนนี้เต็มร้อย ตนจึงเชื่อว่าเมื่อจิตใจพร้อม น้องๆ นักกีฬาก็จะพร้อมสำหรับทุกๆ โปรแกรมจากคณะผู้ฝึกสอนอย่างเต็มที่เช่นกัน

และนับเป็นข่าวดีสำหรับทีม เมื่อ 4 นักเตะสาวของไทย ตัวสำคัญที่หนุนทีมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นชิดตะวัน  ชาวงศ์ (น้องจอย) ซึ่งพักดูแลอาการบาดเจ็บมากว่า 1 ปี พร้อมกับพิสมัย  สอนไสน์ (น้องปุ๋ย) ศูนย์หน้าคนสำคัญของทีมที่พักรักษาอาการบาดเจ็บมาเป็นปี หลังการผ่าตัดมา 2 – 3 ครั้ง และน้องแนนซี่ สุนิสา  สร้างไธสง ที่มีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าหลังจากซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา รวมถึงน้องแม้ว  วิลัยพร  บุตรด้วง ซึ่งทั้ง 4 คน เริ่มหายจากอาการบาดเจ็บแล้วกว่า 90 % ตอนนี้เริ่มลงโปรแกรมฝึกซ้อมกับเพื่อนได้แล้ว  ซึ่งตอนนี้เป็นหน้าที่ของทีมงานผู้ฝึกสอนที่จะต้องจัดโปรแกรมการฝึกซ้อมเพื่อเรียกความฟิตของนักเตะโดยเร็ว  และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันตนเองได้กำชับกับทีมงานตลอดว่า การดูแลนักเตะทั้ง 4 คนต้องเป็นไปอย่างดี และมีประสิทธิภาพ ต้องไม่เร่งรัดมากจนก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บอีก และต้องให้แน่ใจว่าอาการของน้องๆ หายดีสนิทจริงๆ พร้อมที่จะทำหน้าที่ร่วมกับทีมได้จริงๆ เพราะเราเคยมีประสบการณ์มาหลายครั้งที่ส่งนักเตะที่พร้อมไม่เต็มที่ลงสนาม และต้องพบกับการบาดเจ็บที่ต่อเนื่อง ไม่หายขาด ทำให้เสียโอกาสในการรับใช้ชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทีมชาติ และต่อตัวนักกีฬาเองด้วย ดังนั้นกระบวนการดูแลนักกีฬาที่บาดเจ็บจึงต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามระบบ ซึ่งตนเชื่อว่าทั้ง 4 คนมีจิตใจที่พร้อมเกินร้อย ที่จะทำหน้าที่ครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องให้ทีมงานผู้ฝึกสอนเป็นผู้ประเมินความพร้อมของน้องๆ อีกครั้ง เชื่อว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์น้องๆ นักกีฬาทุกๆ คนจะพร้อมเต็มร้อยในการทำหน้าที่ครั้งสำคัญนี้อย่างแน่นอน