ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมงานเปิดตัวเกม ‘Diablo 3: Reaper of Souls’ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา จึงถือโอกาสสอบถามความคิดเห็นของชาวสิงคโปร์โดยตรง เกี่ยวกับงานฉลองเทศกาลสงกรานต์ในสิงคโปร์ ซึ่งกลายเป็นข่าวครึกโครมในประเทศไทยก่อนหน้านี้
ขอเท้าความก่อนว่า เมื่อช่วงประมาณต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยตื่นตัวกันอย่างมาก หลังจากเว็บไซต์ celebratesongkran.com ระบุว่า บริษัทผู้จัดงานอีเวนต์ในสิงคโปร์จะจัดงานฉลองเทศกาลสงกรานต์ขึ้นที่ปาดัง ใจกลางสิงคโปร์ ในวันที่ 12-13 เม.ย. นี้ พร้อมด้วยคอนเสิร์ตที่รวมศิลปินชื่อดังจากทั้งไทยและเทศ และระบุว่าจะจัดงานนี้ให้เป็นงานเทศกาลน้ำที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศไทย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า สิงคโปร์กำลังขโมยวัฒนธรรมของไทยหรือไม่
จากการสอบถามคนสิงคโปร์กว่าสิบคนเกี่ยวกับงานนี้ ปรากฏว่าไม่มีใครทราบเลยว่าจะมีการจัดงานสงกรานต์ หรือเทศกาลน้ำในประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่แม่ค้า หรือคนเดินถนน โดยหญิงชาวสิงคโปร์ผู้หนึ่งกล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการจัดงานฉลองเทศกาลสงกรานต์ในสิงคโปร์ เพราะไม่เคยเห็นโฆษณาหรือการโปรโมตงานเลย ตามปกติแล้วคนไทยในสิงคโปร์หรือตามร้านอาหารไทยก็มีการจัดงานเล่นน้ำบ้าง แต่ไม่เคยมีการจัดงานใหญ่มาก่อน อย่างไรก็ตาม เธอระบุว่าไม่แปลกใจหากสิงคโปร์จะจัดงานนี้ขึ้น เพราะสิงคโปร์ก็จัดงานที่รับมาจากต่างประเทศหลายงาน
ขณะที่หญิงชาวสิงคโปร์อีกคนหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยนาม บอกว่าไม่ทราบเกี่ยวกับการจัดงานฉลองเทศกาลสงกรานต์เช่นกัน แต่เธอเชื่อว่างานนี้ไม่สามารถจัดได้ เนื่องจากสิงคโปร์จำเป็นต้องประหยัดน้ำ เพราะน้ำจืดเป็นสิ่งหายากในประเทศสิงคโปร์ ผู้เขียนก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจว่าทำไมไม่มีใครทราบเรื่องงานนี้เลย จนกระทั่งก่อนเดินทางกลับประเทศไทย และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน ชางงี จึงถึงบางอ้อ
เจ้าหน้าที่บอกกับผู้เขียนว่า งานเทศกาลน้ำในสิงคโปร์ถูกยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากผิดนโยบายประหยัดน้ำของรัฐบาลสิงคโปร์ เจ้าหน้าที่ยังยืนยันเรื่องนี้ด้วยการเปิดเว็บไซต์ข่าว Strait Times ซึ่งลงข่าวนี้เมื่อ 25 มี.ค. (วันที่ผู้เขียนเดินทางไปสิงคโปร์) โดย Strait Times รายงานไว้ว่า จะไม่มีการเล่นปืนฉีดน้ำ, ซุ้มดาราตกน้ำ หรือการเล่นสนุกด้วยน้ำใดๆ ในงานฉลองเทศกาลสงกรานต์ครั้งแรกที่สิงคโปร์ในวันที่ 12-13 เม.ย. ที่ปาดัง อีกต่อไป ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
แต่ถึงกระนั้น ผู้จัดงานยืนยันว่างานฉลองเทศกาลสงกรานต์จะยังมีต่อไป งานคอนเสิร์ต, การแข่งขันมวยไทย, ร้านค้าต่างๆ จะจัดขึ้นตามกำหนดการเดิม เพียงแต่ยกเลิกการเล่นน้ำทั้งหมดเท่านั้น เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสาธารณะ
นี่คือบทสรุปของเทศกาลสงกรานต์ในสิงคโปร์ (ในตอนนี้) โดยจะเป็นการขโมยวัฒนธรรมของไทย หรือไม่ ผู้เขียนคิดว่าขึ้นอยู่กับแนวคิดของแต่ละคน แต่ นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานในสิงคโปร์ หวังว่า งานในสิงคโปร์จะสะท้อนภาพที่ถูกต้อง เพื่อให้เห็นแก่นแท้จริงของประเพณีไทย และเทศกาลสงกรานต์ จะได้ไม่สูญเสียไป หรือถูกนำเสนอแบบผิดๆ ซึ่งหากทำได้อย่างนี้ก็จะสามารถช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในไทยได้มาก
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประสบการณ์ที่แท้จริงของเทศกาลสงกรานต์ จะสามารถสัมผัสได้ในประเทศไทย เท่านั้น” นางกนกกิตติกา กล่าว.
