"อีเอ็มซี" เปิดตัวซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ SRM เวอร์ชั่น 3.0 พ่วง ViPR ชี้องค์กรเอกชนมุ่งลงทุนด้านสตอเรจ หวังเพิ่มเสถียรภาพให้ระบบพร้อมตอบโจทย์การใช้งาน...
นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทมีหนึ่งในวาระเร่งด่วน คือ ช่วยลูกค้าแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศในปัจจุบัน พร้อมให้แนวทางในการเปลี่ยนผ่านจากการประมวลผลแบบแพลตฟอร์มที่สอง สู่สิ่งที่เรียกว่า การประมวลผลแบบแพลตฟอร์มที่สาม ได้แก่ จุดหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานคลาวด์ การทำงานผ่านอุปกรณ์โมบิลิตี้ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก และบิ๊กดาต้า โดยผลจากการวิจัยทำให้อีเอ็มซีได้เปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ของ Storage Resource Management (SRM) Suite (เวอร์ชั่น 3.0) และการพัฒนา ViPR Software-Defined Storage platform (เวอร์ชั่น 1.1) ซึ่งถือเป็นรายแรกของโลก
นายนฐกร กล่าวว่า ผลสำรวจของ EMC Digital Universe ยังได้คาดการณ์อัตราการเติบโตของบิ๊กดาต้า ว่าจะเติบโตถึง 40ZB ภายในปี 2563 ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าว ทำให้ธุรกิจต้องมองหาวิธีปรับเปลี่ยนการบริหารและการนำเสนอข้อมูล ที่สามารถปรับขยายได้ตามอัตราการเติบโตที่เกิดขึ้น ด้วยศักยภาพของพับบลิคคลาวด์ เนื่องจากธุรกิจต้องการสภาพแวดล้อมของระบบสารสนเทศ ที่พร้อมทำงานได้อย่างไร้ข้อจำกัด และ 3 Platform ก็ถือเป็นทิศทางสำหรับความต้องการดังกล่าว เนื่องจากระบบสามารถสนับสนุนการใช้งานของยูสเซอร์และแอพพลิเคชั่นเป็นล้านรูปแบบ ทั้งยังมีเสถียรภาพในรูปแบบของ โมบิลิตี้ และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสภาพแวดล้อมการใช้งาน
ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) กล่าวอีกว่า การเปิดตัว SRM Suiite 3.0 พร้อมกับ ViPR 1.1 ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้น บริษัทยังคงมุ่งมั่นจะเป็นผู้ช่วยลูกค้าเดินทางไปสู่แพลตฟอร์มที่สามด้วยความใส่ใจ พร้อมความเป็นผู้นำของยุคซอฟต์แวร์กำหนดทุกสิ่ง อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้เราจะได้เห็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศยอมรับนิยามที่ชัดเจนของยุคที่ซอฟต์แวร์กำหนดทุกสิ่ง รวมถึงการติดตั้งตัวจัดการนโยบายของสตอเรจ (storage policy descriptor) เนื่องจากแรงผลักดันของมาตรฐานอุตสาหกรรม และพัฒนาไปสู่การเป็นระบบอัตโนมัติครบวงจร รวมถึง software-defined data center โดยอาศัยมาตรฐานอุตสาหกรรมเหล่านี้ในปี 2558
นายนฐกร กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงทุนขององค์กรที่ต้องซื้อโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจ ก็เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามเป้าหมายของระดับการให้บริการ (service level objectives-SLO) ที่กำหนด สิ่งที่แอพพลิเคชั่นต้องการจากสตอเรจ คือ เสถียรภาพ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล ประสิทธิภาพ และการปกป้องข้อมูล แม้ความต้องการเหล่านี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อพิจารณาระบบสตอเรจและซอฟต์แวร์ในตลาด กลับพบว่าความต้องการเหล่านี้ เป็นความท้าทายที่ซับซ้อนของทุกศูนย์ข้อมูล ทำให้ตลาดสตอเรจในปีนี้ เริ่มมองหา SLO-defined storage ที่สามารถตอบโจทย์การปกป้องได้ทั้งหมด ขณะเดียวกัน ลูกค้าก็จะประเมินสตอเรจจากความคุ้มค่าของสถาปัตยกรรมที่ตอบโจทย์ ทั้งด้านความพร้อมในการเข้าถึงข้อมูล ความเร็ว และการปกป้องข้อมูลอีกด้วย.