คนไข้โรคหัวใจคนแรกของโลกซึ่งเป็นชายชาวฝรั่งเศสวัย 76 ปี ที่ได้รับการผ่าตัดใส่หัวใจเทียม เสียชีวิตแล้วที่ประเทศฝรั่งเศส หลังมีชีวิตอยู่ต่อหลังการผ่าตัดได้อีก 75 วัน

โรงพยาบาลจอร์จ ปอมปิดู ในกรุงปารีส ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ระบุชายวัย 76 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายคนแรกของโลก ที่ประสบความสำเร็จในการเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจเทียมแบบครบวงจร ซึ่งผลิตโดยบริษัท การ์มัต เสียชีวิตแล้วเมื่อวันอาทิตย์ หลังผ่านพ้นการผ่าตัดมาเพียง 75 วันเท่านั้น ขณะที่อุปกรณ์หัวใจเทียมดังกล่าวได้รับการออกแบบให้ทำหน้าที่ทดแทนหัวใจจริงได้ถึง 5 ปี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรง

เบื้องต้นคณะแพทย์ผู้รักษายังไม่เผยสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วย แต่กล่าวว่า ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ปีที่แล้ว หัวใจของผู้ป่วยอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถสูบฉีดเลือดเลี้ยงร่างกายได้อีกต่อไป และในเวลานั้นคณะแพทย์ประเมินแล้วว่า ผู้ป่วยอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ดังนั้น การที่ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 2 เดือน คณะแพทย์จึงถือเป็นการประสบความสำเร็จ และมีกำหนดเตรียมผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจเทียมแบบเดียวกันนี้ให้กับผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในขั้นวิกฤตอีกอย่างน้อย 3 คน ในอนาคต

ทั้งนี้ หากอุปกรณ์สามารถต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยทั้ง 3 คนได้อีกอย่างน้อย 1 เดือน คณะแพทย์จะเริ่มผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจเทียมให้กับผู้ป่วยที่มีอาการขั้นรองลงมาต่อไป อุปกรณ์หัวใจเทียมดังกล่าวมีน้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัม หรือหนักกว่าหัวใจของมนุษย์ราว 3 เท่า ทำงานโดยใช้แบตเตอรีลิเธียมที่ติดตั้งไว้กับเข็มขัดที่ผู้ป่วยสวมใส่ โดยผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์หลายประเภทที่บรรจุภายในอุปกรณ์ที่เลียนแบบหัวใจมนุษย์ที่ทำจากพลาสติก