กสทช.ยืนยันประชาชนไม่พลาดการรับชมรายการกีฬาผ่านทีวีดิจิตอล และสามารถรับชมได้ทุกแพลตฟอร์ม ตามกฎของมัสต์แครี่และมัสต์แฮฟ...

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ประชาชนทุกครัวเรือนจะสามารถรับชมรายการกีฬาผ่านทีวีดิจิตอลได้ทุกแพลตฟอร์ม ตามประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ และประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญ ที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นรายการทั่วไป หรือ มัสต์แฮฟ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึงผ่านฟรีทีวี และให้เข้าถึงรายการของมวลมนุษยชาติและคนทั่วโลกด้วย

ทั้งนี้ ตามกฎมัสต์แฮฟ ได้กำหนดรายการไว้ 7 ประเภท ประกอบด้วย 1. การแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกีฬาซีเกมส์ 2. การแข่งขันกีฬาสำหรับนักกีฬาคนพิการอาเซียนพาราเกมส์ 3. การแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย หรือเอเชียนเกมส์ 4. การแข่งขันกีฬาสำหรับนักกีฬาคนพิการเอเชียนพาราเกมส์ 5. การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 6. การแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการหลายประเภทจากทั่วโลก หรือ กีฬาพาราลิมปิก 7. การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย นอกจากนี้ ยังบังคับห้ามผูกขาด โดยต้องเสนอในฟรีทีวี 7 ประเภท ประกอบด้วย 1. กีฬามหาวิทยาลัยโลก 2. คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 3. เอเชียนคัพ รอบสุดท้ายและรอบที่มีทีมชาติไทย 4. ฟุตบอลชิงแชมป์โลกและฟุตบอลชิงแชมป์ เอเชีย 5. เซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก 6. วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก และ 7. เทนนิสเดวิสคัพ

ส่วนกรณี บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้มีลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ยื่นฟ้องสำนักงาน กสทช. กรณีขอผ่อนผันถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายผ่านฟรีทีวีเพียง 22 คู่ จาก 64 คู่ นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของศาล หากอาร์เอสแพ้คดี กฎมัสต์แฮฟก็จะบังคับใช้ตามปกติ แต่หากอาร์เอสชนะคดี ก็ต้องรอคำพิพากษาของศาล ว่าจะให้เพิกถอนกฎมัสต์แฮฟทั้งหมดหรือไม่ หรือเพิกถอนเพียงการแข่งขันฟุตบอลโลกเท่านั้น.