สธ.เตือนโรคอีสุกอีใสระบาด พบผู้ป่วย 5-9 หมื่นราย แนวโน้มเพิ่มขึ้น
 


สธ.เตือนโรคอีสุกอีใสระบาด พบผู้ป่วย 5-9 หมื่นราย แนวโน้มเพิ่มขึ้น


 สธ.เตือนโรคอีสุกอีใสระบาด พบผู้ป่วย 5-9 หมื่นราย แนวโน้มเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงที่อากาศหนาวเย็น โรคที่มีความเสี่ยงจะระบาดได้ง่ายคือโรคอีสุกอีใส (CHICKEN POX) หรือไข้สุกใส เกิดจากเชื้อไวรัส ชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเย็นชื้น พบได้ในคนทุกอายุที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรค มีโอกาสเกิดความรุนแรงโดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคต่ำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้สุกใสย้อนหลัง 10 ปี ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบต่อปีมีผู้ป่วยโรคนี้ 50,000-90,000 ราย  และมีแนวโน้มจะพบมากขึ้น พบผู้ป่วยมากตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนมีนาคม โรคนี้มักพบระบาดในที่อยู่ร่วมกัน เช่น โรงเรียน โรงงาน ศูนย์เด็กเล็ก เรือนจำ เป็นต้น กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้โรคไข้สุกใสเป็น 1 ใน 31 โรคที่ต้องรายงานเมื่อพบผู้ป่วย เพื่อแยกผู้ป่วยไม่ให้ไปสัมผัสกับผู้อื่น และเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ


นพ.ณรงค์กล่าวอีกว่า ในปี 2556 ทั่วประเทศมีรายงานพบผู้ป่วยโรคไข้สุกใสจำนวน 48,299 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต พบมากสุดในกลุ่มอายุ 5-9 ปี คิดเป็นร้อยละ 25 รองลงมาคือกลุ่มอายุ 0-4 ปีร้อยละ 23 ส่วนปี 2557 ตั้งแต่ 1-19 มกราคม พบผู้ป่วยแล้ว 2,565 ราย ไม่มีเสียชีวิต กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันโรค หากมีอาการป่วย ขอให้ไปพบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนอันตราย และควบคุมโรคไม่แพร่ระบาดยังคนอื่นๆ อีก


นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคนี้เป็นโรคที่หายเองได้ ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ โดยตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อยๆ หายใน 1-3 สัปดาห์ โดยไม่มีแผลเป็น เมื่อป่วยจะต้องหยุดเรียน หยุดงานพักผ่อนที่บ้าน และดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารได้ตามปกติ ควรอาบน้ำ และใช้สบู่ฆ่าเชื้อฟอกผิวหนังให้สะอาดเพื่อป้องกันติดเชื้อแบคทีเรีย ตัดเล็บให้สั้น หลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาตุ่ม ถ้ามีไข้สูงให้กินยาพาราเซตามอลลดไข้ วิธีการป้องกันโรคไข้สุกใส ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยและล้างมือบ่อยๆ ไม่ดื่มน้ำแก้วเดียวกันหรือใช้หลอดดูดน้ำร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโรคนี้มีโอกาสเป็นงูสวัดได้ในภายหลังประมาณร้อยละ 15 หากร่างกายอ่อนแอ มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น พักผ่อนน้อย หรือไม่ออกกำลังกาย เนื่องจากจะมีเชื้อหลบอยู่ที่ปมประสาทของร่างกาย   



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.