เอฟ-35 งานเข้า พบซอฟต์แวร์บกพร่อง ชี้อาจมีปัญหาต่อการบำรุงรักษา
 


เอฟ-35 งานเข้า พบซอฟต์แวร์บกพร่อง ชี้อาจมีปัญหาต่อการบำรุงรักษา


เอฟ-35 งานเข้า พบซอฟต์แวร์บกพร่อง ชี้อาจมีปัญหาต่อการบำรุงรักษา


รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เตือนเครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-35 ของล็อคฮีท มาร์ติน มีปัญหาการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ และความน่าเชื่อถือ โดยอาจกระทบการเข้าประจำการใน นย.สหรัฐฯ ที่ต้องล่าช้าจากที่วางแผนไว้ช่วงกลางปี 2015...

สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานอ้าง เอกสารรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) โดยไมเคิล กิลมอร์ หัวหน้าฝ่ายโครงการทดสอบ เอฟ-35 ที่ระบุว่า ได้ให้คำติชมโดยลงรายละเอียดด้านเทคนิค ที่ท้าทายต่อโครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่โจมตีร่วมเอฟ-35 ของสหรัฐฯ และเน้นหนักไปที่สิ่งที่เขาบอกว่า "ยอมรับไม่ได้" เกี่ยวกับสมรรถนะของซอฟต์แวร์บนเครื่องบิน โดยในรายงานคาดว่าโครงการทดสอบ บล็อก 2บี (Block 2B) คาดว่าต้องล่าช้าไปอีก 13 เดือน จึงจะทดสอบซอฟต์แวร์แล้วเสร็จ เพื่อหน่วยนาวิกโยธินจะได้ใช้งานจริงในปี 2015 โดยสิ่งสำคัญอันดับแรก คือ ค่าใช้จ่ายในการดูแลเครื่องบินที่สูงมาก


กิลมอร์ ผู้อำนวยการทดสอบและประเมินค่าแก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สำหรับโครงการเครื่องบินขับไล่โจมตีร่วม (เจเอสเอฟ) เอฟ-35 ที่มีมูลค่าถึง 392,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มานานแล้ว กับโครงการมูลค่าสูงลิบลิ่วของเพนตากอน และรายงานชิ้นนี้ก็ไม่ได้ละเว้นเช่นกัน เนื่องจากรายงานจะถูกส่งไปยังสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

"เครื่องบินรุ่นนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ และยากต่อการบำรุงรักษา อีกทั้งมีความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้ จากการติดไฟเมื่อถูกอาวุธนำวิถีพุ่งชน" ผู้อำนวยการทดสอบและประเมินค่าแก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าว

 

 

ภาพโดย Edwards-Paul Weatherman / USAF

ด้าน พลอากาศโทคริส บ็อกดาน หัวหน้าโครงการ เอฟ-35 ในเพนตากอน กล่าวในแถลงการณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รายงานของกิลมอร์มีความถูกต้องและเป็นความจริง แต่ไม่ได้สะท้อนถึงความพยายามที่จะทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานของเขากับกลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ 

หัวหน้าโครงการ เอฟ-35 ของเพนตากอน กล่าวต่อว่า การออกแบบพื้นฐานของเครื่องเอฟ-35 มีเสียงและผลทดสอบที่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่เราคาดหวังเอาไว้ว่ามันจะเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร แน่นอนเรารับรู้ถึงความเสี่ยงที่มีในโครงการ แต่พวกเขาเข้าใจและจัดการได้

ภาพจากทวิตเตอร์ @LockheedMartin

"ยังเชื่อว่าเครื่องเอฟ-35 ชุดแรกจะมีความพร้อมในการรบสำหรับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ ในปีหน้า ขณะที่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เอฟ-35 ก็ประสบความสำเร็จในการทดสอบใช้อาวุธ ถือว่าโครงการนี้ผ่านมาได้ครึ่งทางแล้ว โดยผ่านการทดสอบมาแล้ว 1,153 เที่ยวบิน และบรรลุวัตถุประสงค์ในการทดสอบต่างๆ แล้วกว่า 9,000 การทดสอบในปี 2013" บ็อกดาน กล่าว

โครงการเครื่องบินเอฟ-35 เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2001 และมูลค่าโครงการสูงกว่าที่คาดไว้เดิมถึง 70% และยังล่าช้ากว่ากำหนด ทั้งนี้ ล็อคฮีท ได้พัฒนาเครื่องบินเอฟ-35 สำหรับกองทัพอากาศ กองทัพเรือ นาวิกโยธินสหรัฐฯ และ 8 ชาติที่ร่วมสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาโครงการ ได้แก่ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย นอร์เวย์ อิตาลี ตุรกี เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งอิสราเอล และญี่ปุ่น ที่ร่วมสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้แล้วด้วย.

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.