RAZER ประกาศเปิดตัว "NABU SMARTBAND" อุปกรณ์สวมติดตัวที่สามารถแจ้งเตือนและเชื่อมต่อโลกโซเชียลผ่านสายรัด โวประยุกต์ใช้กับเกมเครื่องแรกในโลก...
เรเซอร์ (Razer) ผู้พัฒนาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์สำหรับเกมเมอร์ ประกาศเปิดตัวสายรัดข้อมืออัจฉริยะในชื่อ “Razer Nabu” โดย Razer Nabu ถือเป็นเทคโนโลยีแบบสวมติดตัว ซึ่งจะช่วยในการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนไปยังข้อมือของผู้สวมและติดตามข้อมูลบุคคล ทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดกว้างรองรับการใช้งานกับทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์
ทั้งนี้ Razer Nabu มีคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.การแจ้งเตือนบนข้อมือ โดย Razer Nabu มีหน้าจอแจ้งเตือน OLED สองหน้าจอคือหน้าจอไอคอนทั่วไปกับหน้าจอข้อความส่วนตัว ซึ่งหน้าจอไอคอนทั่วไปจะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีสายเรียกเข้า ข้อความ อีเมล์ และอัพเดตแอพพลิเคชั่นผ่านไอคอนแจ้งเตือน ขณะที่ หน้าจอข้อความส่วนตัว จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อความ อีเมล์ ประวัติส่วนตัว และข้อมูลอัพเดตอื่นๆ โดยละเอียดเฉพาะผู้ใช้เท่านั้น
2.เซ็นเซอร์สำหรับติดตามข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ตัวเอง Razer Nabu มีเซ็นเซอร์ที่ทันสมัยสำหรับติดตามข้อมูล รวมถึงข้อมูลสถานที่ ฟีดแบ็กเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว เช่น จำนวนก้าวที่เดิน ระยะที่เดินทาง ขั้นบันไดที่ปีน ข้อมูลการหลับ การสื่อสารระหว่างสายรัดและอื่นๆ ทั้งนี้ ยังได้รวบรวมหลักพื้นฐานอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้เข้าใจและปรับกิจกรรมในแต่ละวันของตัวเองได้ดีกว่า และ 3.อุปกรณ์สวมติดตัวที่สื่อสารกับโลกโซเชียลได้ โดยสายรัด Razer Nabu สามารถแสดงตัวตนในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อค้นหาเพื่อนที่อยู่ใกล้ คนที่รู้จักร่วมกันและอื่นๆ ตามการตั้งค่าที่กำหนดโดยผู้ใช้
Min-Liang Tan ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟ ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งเรเซอร์ กล่าวว่า นาฬิกาอัจฉริยะแบบปัจจุบันมีขนาดใหญ่และทำให้รู้สึกเทอะทะเกินไป หรือพฤติกรรมลืมถอดเครื่องวัดผลการออกกำลังกาย ซึ่ง Razer Nabu ได้ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างนาฬิกาอัจฉริยะและสายคาดฟิตเนส โดยมอบเฉพาะข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่คุณต้องการและสร้างปฏิสัมพันธ์ในโลกโซเชียล นอกจากนี้ผู้พัฒนายังสามารถใช้ข้อมูลที่ Nabu รวบรวมไว้ เพื่อสร้างประสบการณ์ในแบบส่วนตัวผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเดสก์ท็อปได้อีกด้วย
ทั้งนี้ Razer Nabu มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นยูทิลิตีที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ โดย Razer Nabu มีกำหนดวางจำหน่ายทั่วโลก ภายในช่วงปลายไตรมาส 1 ของปีนี้ โดยขณะนี้ยังไม่มีการระบุราคาขายปลีก แต่ได้มีการเปิดเผยราคาสำหรับบรรดาผู้พัฒนา โดยเปิดโอกาสให้สามารถสมัครและซื้อสายรัดดังกล่าวได้ในราคาผู้พัฒนา ที่ประมาณ 49 ดอลลาร์.
