"แซส" ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ เผยการวิเคราะห์แบบไดเร็กเมล์ การตอบคำถามแบบมีเงื่อนไข และการวางระบบธุรกิจอัจฉริยะ เป็นกลยุทธ์หลักเพื่อภาคเอกชนในยุคข้อมูลขนาดใหญ่…
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ กล่าวว่า การรวมข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้วยการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์เป็นความท้าทายสำหรับแวดวงธุรกิจ แต่การวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง หรือที่เรียกว่าไดเร็กเมล์ (Direct Mail) โดยปกติแล้วจะมีอัตราการตอบรับเพียง 1% เมื่อจัดส่งไปให้ผู้ที่มีแนวโน้มจะเข้ามาเป็นลูกค้าจำนวน 15 ล้านราย ซึ่งมีมูลค่าต่อหัวระดับ 500 ดอลลาร์ตลอดอายุการใช้บริการ จะพบว่าการปรับปรุงอัตราการตอบรับข้อเสนอการขายพ่วงหรือการขายต่อยอดเพียงเล็กน้อย หมายถึงเงินมูลค่านับสิบล้านดอลลาร์ต่อปี
กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ปัจจุบันการวิเคราะห์ขั้นสูงสามารถช่วยคุณพัฒนาโมเดลต่างๆ แล้วนำโมเดลเหล่านั้นมาใช้ในการตอบคำถามแบบมีเงื่อนไข (what-if) เกี่ยวกับข้อมูลของคุณได้ เช่น การพัฒนาโมเดลทางสถิติที่มีการเชื่อมโยงพฤติกรรมการซื้อกับโปรไฟล์ของลูกค้า สามารถใช้ทำนายพฤติกรรมในอนาคตของลูกค้าได้ การประยุกต์ใช้โมเดลดังกล่าวถือเป็นการให้คะแนน และเป็นพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า การวิเคราะห์ในประเภทดังกล่าวเป็นโลกที่ห่างไกลจากระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) ในรูปแบบดั้งเดิมที่เกี่ยวข้องกับการถามคำถามง่ายๆ เกี่ยวกับข้อมูลในลักษณะหนึ่งหรือสองมิติมากกว่า ประเภทของการวิเคราะห์ดังกล่าวค่อนข้างตรงไปตรงมาโดยใช้ฐานข้อมูลแบบเดิม ซึ่งต้องการเพียงแค่ช่องทางขนาดเล็ก (อินเทอร์เฟส) ในการป้อนและแสดงผลข้อมูล และส่วนซอฟต์แวร์ในเครื่องไคลเอ็นต์สำหรับใช้จัดการอินเทอร์เฟสดังกล่าว
กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) กล่าวด้วยว่า การสร้างความแตกต่างด้วยการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง หากต้องการมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ไม่ได้มุ่งเน้นที่การทำธุรกรรม ก็จำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถทำอะไรได้บ้างหากเวลาในการประมวลผลเพื่อค้นหาการทุจริต ความเสี่ยง และการทำตลาดลดลงได้ถึง 90% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคำถามสำคัญต่อการหาคำตอบ ซึ่งแซสมีสถาปัตยกรรมที่พร้อมช่วยตอบคำถามดังกล่าว.
