สธ.เผยผลแล็บนักแสวงบุญฮัญจ์ ไม่พบติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า
 


สธ.เผยผลแล็บนักแสวงบุญฮัญจ์ ไม่พบติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า


สธ.เผยผลแล็บนักแสวงบุญฮัญจ์ ไม่พบติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า

สธ.ออกเตือนชาวมุสลิมที่ไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ สังเกตร่างกาย อาจเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2012 ล่าสุดกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการผู้กลับจากพิธีฮัจญ์ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ พบแต่ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เท่านั้น...

วันที่ 27 พ.ย. 56 นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกได้มีการแจ้งเตือน ให้ทุกประเทศเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้ติดเชื้อระบบหายใจ โดยสถานการณ์โรคจากเว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลก รายงานตั้งแต่เดือน ก.ย. 2555 จนถึงวันที่ 19 พ.ย. 2556 พบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 รวมทั้งสิ้น 157 ราย เสียชีวิต 66 ราย สำหรับประเทศไทยยังไม่พบรายงานผู้ป่วยโรคดังกล่าว ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรค

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. 2556 นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค ขณะนี้มีผู้แสวงบุญเดินทางกลับถึงประเทศไทย รวม 10,390 คน ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เตรียมความพร้อมรับมือโรคดังกล่าว โดยมอบหมายให้กรมการแพทย์พัฒนาให้ความรู้ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ภาครัฐและเอกชน ทั้งในส่วนกลางและปริมณฑล

รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ในเขตจังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 700 คน และประชุมคณะทำงานด้านการแพทย์ เพื่อกำหนดแผนการดำเนินงาน รวมถึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสนอแนวคิดด้านวิชาการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัย และการดูแลรักษาผู้ป่วยที่สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012

ทั้งนี้ ได้แนะนําให้สถานพยาบาลให้ความสําคัญกับระบบการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล หากต้องดูแลผู้ป่วย หรือสงสัยว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 ควรได้รับการรักษาโดยจัดให้อยู่ห้องแยกปลอดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม นพ.สุพรรณ กล่าวด้วยว่า ชาวมุสลิมที่เดินทางกลับมาจากการประกอบพิธีฮัจญ์ ควรสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย เช่น เป็นไข้ ไอ หายใจเหนื่อย ปวดศีรษะ หรืออาการอื่นๆ ภายใน 30 วัน นับจากเดินทางกลับมาจากพิธีฮัจญ์ โดยให้แจ้งแก่แพทย์ผู้รักษา หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน

ล่าสุด นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากรายงานของกรมควบคุมโรคว่ามีผู้ไปแสวงบุญฮัจญ์ ณ ​กรุงเมกกะ  ประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้ทยอยเดินทางกลับประเทศไทยครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา จำนวน 10,389 คน ซึ่งกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ได้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 ด้วยวิธี Real Time RT-PCR ระหว่างวันที่ 22 ต.ค. - 20 พ.ย. 56 จำนวน 246 ตัวอย่าง ไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 แต่พบผู้ป่วยที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่ร้อยละ 25 โดยแยกเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) ร้อยละ 55.55 ไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H1N3) ร้อยละ 35.55 และไข้หวัดใหญ่ชนิด Bร้อยละ 8.90 อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังติดตามสุขภาพผู้แสวงบุญเป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากเดินทางกลับ

สำหรับเชื้อโคโรน่าไวรัสโดยทั่วไป เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือระบบอื่นๆ ในคนและสัตว์ โดยอาจมีความรุนแรงของอาหารที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เช่น เป็นไข้หวัดธรรมดา หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ส่วนเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 ที่เพิ่งค้นพบและระบาดอยู่แถบประเทศทางคาบสมุทรอาระเบีย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงร่วมกับไตวาย.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.