ความสวยงามของธรรมชาติชายหาดและทิวมะพร้าวที่มีอยู่โดยรอบเกาะพะงัน คือมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาเยือน
ด้วยสีสัน...บรรยากาศน่าประทับใจของชายหาดแต่ละแห่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้แดนดินถิ่นแห่งนี้ไม่เคยร้างไร้นักท่องเที่ยว จึงทำให้ เกาะสมุย เกาะพะงัน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ
“เกาะพะงัน” เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมานานหลายสิบปี ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย
เพราะนอกจากความงามทางธรรมชาติแล้ว วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คนในท้องถิ่นและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมก็นับเป็นเสน่ห์ให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นแดนสวรรค์กลางอ่าวไทย เชื้อเชิญนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่รู้เบื่อ
แต่...เมื่อรัฐบาลได้มีการอนุมัติให้บริษัทสัมปทาน สำรวจขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่อ่าวไทย รอบๆ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่ารวมไปถึงพื้นที่ใกล้เคียง หมู่เกาะอ่างทอง
สุ้มเสียงจากชาวบ้านสะท้อนความต้องการถึงความโปร่งใสจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จี้ประเด็นไปยังรัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลและเปิดเวทีรับฟังความเห็นตั้งแต่ก่อนสัมปทาน ไม่ใช่ปล่อยให้บริษัทดำเนินการไปก่อน แล้วเข้ามาทำอะไรก็ได้ในพื้นที่
“คนท้องถิ่นมีสิทธิห่วงบ้านเกิด ไม่มีใครอยากให้มีแปลงสัมปทานน้ำมันในแหล่งท่องเที่ยวหลักของไทยที่มีเสน่ห์ของวิถีชีวิต และ สร้างรายได้มหาศาล...เราไม่ได้ปฏิเสธว่าเมืองไทยต้องการพลังงาน
แต่ต้องการให้รัฐรับฟังความคิดเห็นคนในพื้นที่บ้าง ไม่ว่าขุดน้ำมัน สร้างเขื่อน สร้างโรงไฟฟ้า ทุกอย่างควรเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ปิดลับ”
ผลสะท้อนที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่ม นักอนุรักษ์ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว กลุ่มผู้นำชุมชน กลุ่มเรือประมงชายฝั่ง ใน อำเภอเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ต่างเดินหน้าออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลคิดทบทวน โดยเฉพาะในเรื่องการอนุมัติการสำรวจและสัมปทานในโครงการดังกล่าว เนื่องจาก...ผลเสียมากกว่าผลที่จะได้รับ
คลื่นสะท้อนตามมาเป็นระลอก ทำให้กลุ่มองค์กรเครือข่ายต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวและต่อต้าน เนื่องจากเกรงและกลัวว่าจะกระทบกับวิถีชีวิตของชุมชน และกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเสียหายอย่างมหาศาล
หากเกิดเหตุการณ์ท่อน้ำมันระเบิดเหมือนที่ประเทศเม็กซิโก หรือท่อน้ำมันรั่วไหลเหมือนที่อ่าวพร้าว ในจังหวัดระยอง จะเป็นเช่นใด?
ยกตัวอย่างโครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียมของบริษัทซาลา-มานเดอร์ เอนเนอร์ยี่ (บัวหลวง) ลิมิเต็ด บริเวณด้านตะวันตกเฉียงใต้ของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G4/50
หลุมนี้...ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 52 กิโลเมตร ห่างจากเกาะเต่าประมาณ 40 กิโลเมตรและเกาะพะงันประมาณ 36 กิโลเมตรกำลังจะเริ่มขึ้น
...ยิ่งทำให้กลุ่มองค์กรเครือข่ายเป็นกังวล แสดงพลังต่อต้านจะไม่ยอมให้มีการตั้งฐานขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ยังประกาศด้วยว่า จะรวมพลังที่จะต่อสู้ทุกรูปแบบกับกลุ่มนายทุน
ทนงศักดิ์ สมวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เชื่อว่าหากมีการขุดเจาะปิโตรเลียมเกิดขึ้นจะต้องมีผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน ทั้งนี้พวกเราไม่ได้ต่อต้านเพียงขอให้ทบทวน เพราะหากมองในแง่ของพลังงานทดแทน ประเทศไทยยังมีอีกมาก ที่สำคัญยังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่เกิดผลกระทบตามมาเพราะมีการนำเสนอเพียงผลดีด้านเดียว
สอดคล้องกับทัศนะของ วรรณี ไทยพานิช นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน ที่บอกว่า ขอให้ยกเลิกการขุดเจาะน้ำมันทันที ไม่ต้องมีการสำรวจ เพราะเชื่อมั่นว่าจะกระทบการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน เพราะทุกฝ่ายได้ศึกษารายละเอียดมาแล้ว
ขณะที่ อานนท์ วาทยานนท์ ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน เกาะเต่า หมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สะท้อนว่า
ขณะนี้ เครือข่ายปกป้องเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน เต่า หมู่เกาะอ่างทอง มีความเคลื่อนไหวกันมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางเครือข่ายฯ ได้ทราบข้อมูลว่าจะมีการขุดเจาะน้ำมันในบริเวณดังกล่าวขึ้นอย่างแน่นอน
“เครือข่ายฯ ได้มีการรวมตัวกัน เพื่อประชุมหาแนวทางแก้ไข เนื่องจากหากมีการขุดเจาะน้ำมันขึ้นจะทำให้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แหล่งประมง ในพื้นที่ที่จะมีการขุดเจาะสำรวจน้ำมันทั้ง 3 แปลง”
บริเวณนี้สำหรับการท่องเที่ยว ถือได้ว่าเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและทรัพยากรทางธรรมชาติ...โดยเฉพาะในเรื่องของการเป็นแหล่งอนุบาลปลา แหล่งผสมพันธุ์ปลาหลายๆชนิด โดยเฉพาะ “ปลาทู”...ที่เราบริโภคกัน ก็มีกำเนิดจากบริเวณเดียวกันนี้
น่าสนใจด้วยว่า ในขณะเดียวกัน บริษัท ปตท.สผ.ในแปลง B6/27 ได้ตั้งอยู่ในใจกลางของพื้นที่ตรงนี้เลย โดยการขาดการ มีส่วนร่วมของประชาชน เพราะทั้ง 3 แปลง ประชาชนและเครือข่าย ต่างๆ...ได้ทำการคัดค้านมาโดยตลอด
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการฟ้องศาลปกครองไว้แล้ว ซึ่งยังคงอยู่ในกระบวนการพิจารณา อีกทั้งยังมีการเจรจาผ่านกระทรวงพลังงานซึ่งลงมาในพื้นที่ และได้มีการตั้งเป็นคณะกรรมการ 3 ฝ่ายขึ้นมา ก็ได้ยื่นข้อเสนอไปว่าควรจะมาคุยกันในเรื่องของระยะปลอดภัยก่อน
ถ้าหากมีความจำเป็นที่จะมีการสำรวจในบริเวณอ่าวไทย ซึ่งก็ควรที่จะหยุดกิจกรรมทุกประเภท เพื่อที่จะรอฟังศาลปกครองว่ามีการพิจารณาคดีนี้อย่างไร
ปัญหามีว่า...ที่ผ่านมา ทางบริษัทรับสัมปทานไม่ได้หยุดกิจกรรม ยังมีการเข้ามารับฟังความคิดเห็น...ในหลุมใหม่ๆ ยังมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในพื้นที่เหมือนจะไม่ละความพยายามที่จะเดินหน้าโครงการขุดเจาะสำรวจน้ำมันในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญผืนนี้กันต่อไป
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้...หากยังมีการเดินหน้าขุดเจาะน้ำมัน “กลุ่มเครือข่ายปกป้องเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน เกาะเต่า หมู่เกาะอ่างทอง” จะไม่ยอมถอยเช่นกัน...เพราะเรารักบ้านเกิด รักทรัพยากรที่เราจะมีใช้อย่างยั่งยืนไปจนชั่วลูกชั่วหลาน.
