เมื่อวันที่ 26 ก.ย. เวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงเปิดโครงการ “สร้างอนาคตไทย 2020” เพื่อชี้แจงถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ ตามร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม จะมีการจัดเสวนาและนิทรรศการ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการดังกล่าวใน 12 จังหวัด เริ่มที่ จ.หนองคาย เป็นแห่งแรก ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.นี้ ตามด้วย จ.นครราชสีมา วันที่ 11-13 ต.ค.56 จ.ชลบุรี วันที่ 15-17 ต.ค.56 จ.อุบลราชธานี วันที่ 18-20 ต.ค.56

จ.ขอนแก่น วันที่ 25-27 ต.ค.56 จ.นครสวรรค์ วันที่ 1-3 พ.ย.56 จ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 1-3 พ.ย.56 จ.เพชรบุรี วันที่ 8-10 พ.ย.56 จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 8-11 พ.ย.56 จ.เชียงใหม่ วันที่ 15-17 พ.ย.56 จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 22-24 พ.ย.56 และปิดท้ายที่ จ.สงขลา วันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค.56

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมาเป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย เมื่อประเทศไม่ได้พัฒนาจึงทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง รัฐบาลจึงได้นำปัญหานี้มาสะท้อน และต้องการเห็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อดึงดูดและทำให้เกิดความมั่นใจกับนักลงทุน โดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้จะเป็นการเชื่อมโยงเมืองสู่เมือง อุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรม ซึ่งประโยชน์ที่จะได้ตามมาคือการลดการใช้พลังงานซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของการขนส่ง นอกจากนี้ยังเป็นการเชื่อมประเทศไทยเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคม และด่านที่เป็นมาตรฐาน

การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อตอบโจทย์ว่าเรามีโครงสร้างพื้นฐาน มีรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ถนน สนามบิน ด่านชายแดน หรือท่าเรือต่าง ๆ แต่สิ่งที่เราจะได้มีมากกว่านั้น คือการส่งเสริมสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าโอท้อป มีการเชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนโรงงานแปรรูป และการส่งออก ทำให้ต้นทุนลดลง สินค้าต่างๆถึงมือผู้บริโภคเร็วขึ้น มีความสดมากขึ้น จะดึงดูดการลงทุนได้มากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ความเจริญต่างๆจะกระจายไปสู่ภูมิภาคมากขึ้นด้วย มีการเชื่อมเมืองท่องเที่ยวสู่เมืองท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน ทำให้นักท่องเที่ยวอยู่กับเรานานขึ้น ทำให้รายได้ไปสู่ท้องถิ่นมากขึ้น และสิ่งที่จะได้รับนอกเหนือจากการลงทุนคือการวางระบบผังเมืองให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ และอนาคตของประเทศใหม่ในอีก 7 ปีข้างหน้า เชื่อมโยงกับระบบบริหารจัดการน้ำ และความอบอุ่นของครอบครัว เพราะหลายครอบครัว ไม่ต้องจากบ้านไปทำงานในเมืองใหญ่อีกต่อไป

“เราทุกคนมีความคาดหวังที่แตกต่างกัน แต่จะทำอย่างไรให้การคาดหวังนี้เดินไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน สิ่งที่เราคาดหวัง หรือฝันจะเกิดขึ้นจริงด้วยโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านที่รัฐบาลจะนำเสนอ การวางภาพในอนาคตในอีก 7 ปีข้างหน้า คือการวางโครงสร้างพื้นฐาน เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างประเทศไทย กับเมืองต่าง ๆ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนี้ ดิฉันอยากขอให้ใช้คำว่าเป็น พ.ร.บ.เพื่อการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตของประเทศไทย และเราอยากจะให้คนไทยทุกคน ได้รวมพลังในการวาดภาพอนาคตประเทศไทยในปี 2020 ว่าเราอยากจะเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร อยากเห็นการนำโครงสร้างพื้นฐานไปเชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิต ความอบอุ่นของครอบครัว และความสุขของคนไทย ขอให้เราทุกคนได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ และสร้างอนาคตของประเทศไทยของปี 2020 ร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว