จากกรณีหนังสือพิมพ์นำเสนอข่าวพ่อค้าหัวใสขายลูกโป่งฟันนี่แอร์ หรือลูกโป่งหัวเราะ โดยลูกโป่งดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องราตรี และเมื่อสูดดมไปนานๆจะมีอันตรายถึงชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ชนะสงครามจับกุมพ่อค้าได้ 8 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวพ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า ขณะนี้พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 ได้สั่งระดมเข้มไม่ให้มีการจำหน่ายลูกโป่งดังกล่าว พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวถึงที่มาของขบวนการนี้ เบื้องต้นทราบว่ามีการแพร่ระบาดมาได้สักระยะตามแหล่งท่องเที่ยว เช่นเกาะสมุย และเกาะพงัน ก่อนจะเข้ามาตามแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร อาทิ ซอยนานา และ พัฒน์พงษ์ รวมทั้งข้าวสาร ซึ่งในส่วนของขบวนการนี้นั้นมีเอเย่นต์อยู่ 2 รายแต่อยู่ระหว่างการสืบสวน โดยขบวนการนี้จะมีเอเย่นต์หรือนายหน้าเข้ามาติดต่อให้กับพ่อค้าหัวใสว่ามีลูกโป่งหัวเราะที่กำลังเป็นที่นิยม แต่ไม่ได้ระบุว่าภายในผสมก๊าซอะไร ซึ่งเมื่อตกลงกันได้ ก็จะส่งก๊าซไนตรัสออกไซด์บรรจุในแคปซูล พร้อมกับลูกโป่งมาให้ อย่างไรก็ตามฝากเตือนประชาชนว่าไม่ควรสูดดมลูกโป่งดังกล่าวเพราะอาจจะทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้ ขณะที่นายบุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ก๊าช ไนตรัสออกไซด์ หรือที่เรียกว่า “แก๊สหัวเราะ” ว่านั้นปัจจุบันยังมีใช้ในวงการแพทย์ในกรณีผ่าตัดโดยจะใช้ร่วมกับยาสลบ เพื่อทำให้เกิดการชาและระงับความปวด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้ในการแข่งรถยนต์โดยให้เป็นตัวเติมออกซิเจนเพื่อเพิ่มกำลังให้เครื่องยนต์อีกด้วย อย่างไรก็ตามหากนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยการสูดดมก๊าชดังกล่าวจะทำให้เกิดอาการมึนเมา เคลิบเคลิ้มในเวลาไม่ถึง 5 นาที คล้ายเสพสารเสพ ซึ่งที่ผ่านมาในต่างประเทศมีรายงานพบว่าเคยมีผู้เสียชีวิตจากการสูดดมก๊าชดังกล่าว เลขาธิการอย.กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการในการป้องกันนั้นขณะนี้ได้ประสานความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร่วมตรวจสอบหากพบการกระทำในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้หากพบว่ามีการนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต มีโทษตามมาตรา 10 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
