พบ เจ้าหน้าที่กู้อ่าวพร้าว มีอาการผิดปกติ 1 ราย
 


พบ เจ้าหน้าที่กู้อ่าวพร้าว มีอาการผิดปกติ 1 ราย


พบ เจ้าหน้าที่กู้อ่าวพร้าว มีอาการผิดปกติ 1 ราย

รมว.สธ.เผย สารเบนซีนในคราบน้ำมันดิบ ร่างกายสามารถขับออกทางปัสสาวะ การหายใจและเหงื่อ หมดภายในประมาณ 1 สัปดาห์ กำชับผู้ปฏิบัติงานให้สวมชุดป้องกันการสัมผัสและการสูดดม ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว...

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 56 นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าผลการเฝ้าระวังสุขภาพเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ที่เข้าไปช่วยเก็บคราบน้ำมันดิบที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า ผลการตรวจหาสารอนุพันธ์ของเบนซีนในปัสสาวะของผู้ปฏิบัติงานและประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 2556 รวม 1,594 คน วันนี้รู้ผลแล้ว 794 คน พบผิดปกติเพียง 1 คนเท่าเดิม ที่มีค่าสารนี้ในปัสสาวะสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน อยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อรับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดซ้ำ ซึ่งการพบสารอนุพันธ์ของเบนซีนในปัสสาวะ สูงเกินค่ามาตรฐาน ไม่ได้บ่งบอกโดยตรงถึงการเป็นพิษหรือเป็นอันตรายมาก แต่บอกถึงปริมาณการสัมผัสสารนี้ระหว่างปฏิบัติงานว่าสูงเกินค่ามาตรฐานในการทำงาน 8 ชั่วโมง โดยสารเบนซีนนี้จะขับออกจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติ มากกว่าร้อยละ 80 จะขับออกทางปัสสาวะ และขับออกทางการหายใจ และเหงื่อ จะออกจากร่างกายหมดประมาณ 1 สัปดาห์ หากไม่ได้รับสารเบนซีนเพิ่มอีก

“กรณีพบผู้มีสารอนุพันธ์ของเบนซีนในปัสสาวะ สูงเกินค่ามาตรฐานจำนวน 1 คนนั้น ในทางการแพทย์ต้องนัดตรวจอาการทางคลินิกว่ามีอาการ หรืออาการแสดงของการรับพิษแบบเฉียบพลันหรือไม่ เช่น หน้ามืด เวียนศีรษะ ซึม หมดสติ ชัก หากมีก็ให้การรักษาตามอาการ หากไม่มีอาการ หรืออาการแสดงของการเกิดพิษดังกล่าว จะดำเนินการเฝ้าระวังต่อเนื่องเพื่อดูผลกระทบระยะยาวต่อไป” นพ.ประดิษฐ กล่าว

นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ในส่วนพนักงาน หรือกลุ่มอาสาสมัครทั้งหมด กระทรวงสาธารณสุขได้มีระบบการติดตามดูแลสุขภาพต่อเนื่อง โดยนัดมาเจาะเลือดติดตามเช่นทุก 6 เดือน เป็นระยะเวลา 2-3 ปี หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ถือว่าปกติ สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำคือการเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่อันตรายต้องมีเครื่องป้องกัน หน่วยงานต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวให้พนักงานและอาสาสมัครด้วย ส่วนมาตรการการตรวจสุขภาพเป็นการเฝ้าระวัง และตรวจสอบว่าได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องให้การรักษา เพราะถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละเพื่อสังคม

สำหรับพิษของเบนซีนต่อร่างกาย มีทั้งระยะเฉียบพลันและระยะยาว โดยระยะเฉียบพลันมักจะมีอาการมึนศีรษะ วิงเวียน หน้ามืด เป็นลม อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน เจ็บคอ แสบตา หากได้รับสารนี้สะสมในร่างกายเป็นเวลานานมากกว่า 3 ปีขึ้นไป อาจมีความเสี่ยงเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้สูงกว่าคนทั่วไป ส่วนการตรวจคุณภาพอากาศที่อ่าวพร้าวของกรมควบคุมโรคพบว่า ขณะนี้ค่าเบนซีนในอากาศไม่เกินเกณฑ์ปกติ ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานทำลายคราบน้ำมัน ขอให้สวมชุดป้องกันการสัมผัสและการสูดดม และอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายหลังทำงานโดยเร็วเพื่อลดการสัมผัส

ผลการออกหน่วยปฐมพยาบาลด้านการแพทย์ ที่อ่าวพร้าว มีผู้รับบริการจำนวน 723 ราย พบผู้ที่มีอาการเกี่ยวข้องกับการสูดไอระเหยของเบนซีนในน้ำมันดิบ ได้แก่ เป็นลม ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เจ็บคอ ผื่นคัน จำนวน 256 ราย ไม่มีรายใดรุนแรง.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.