แฉโฆษณาวิทยุผิด ก.ม.โอ้อวดเกินจริง วอนรัฐปกป้องประชาชน
 


แฉโฆษณาวิทยุผิด ก.ม.โอ้อวดเกินจริง วอนรัฐปกป้องประชาชน


แฉโฆษณาวิทยุผิด ก.ม.โอ้อวดเกินจริง วอนรัฐปกป้องประชาชน

ผศ.ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) เผยพบผู้เสียหายร้องเรียน โฆษณาวิทยุ หลอกลวง โอ้อวด เกินจริง วอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง ควบคุมการเผยแพร่โฆษณา การปราบปรามยุติการเผยแพร่ ปกป้องประชาชน เสียรู้ เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ

วันที่ 16 ก.ค. 56  ผศ.ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) กล่าวว่า จากการทำงานร่วมกับมีเดียมอนิเตอร์ ทำการศึกษาโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม เพื่อวิเคราะห์เนื้อหาที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และสร้างค่านิยมที่ไม่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการโฆษณาเกินจริง หลอกลวง ที่ปัจจุบันพบว่ามีผู้เสียหายและร้องเรียนจำนวนมาก การศึกษาครั้งนี้ ทำการสุ่มเลือกสปอตวิทยุกระจายเสียง โดยการศึกษาได้ทำการสืบค้นโฆษณาที่เผยแพร่ซ้ำด้วยการใช้เว็บไซต์ google.co.th, youtube.com และ 4shared.com ระหว่างวันที่ 11-15 มี.ค.56

โดยพบไฟล์เสียงสปอตวิทยุที่เผยแพร่ในช่วงปี 2555-2556 จำนวน 67 ชิ้นสปอต จาก 48 ผลิตภัณฑ์ ได้ทำการถอดไฟล์เสียงเพื่อวิเคราะห์ สามารถแยกได้เป็น ผลิตภัณฑ์ยา และ อาหาร ตามที่สามารถเปรียบเทียบจาก พระราชบัญญัติต่างๆ อาทิ พ.ร.บ.ยา พ.ร.บ.อาหาร หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ เป็นต้น

ผศ.ดร.ภญ.นิยดา กล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์มิติด้านกฎหมาย พบว่า มีการใช้ข้อความต้องห้าม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยา พบความผิดตาม พ.ร.บ.ยา 2510 หลายมาตรา ทั้งข้อความโอ้อวด ว่าสามารถบำบัดบรรเทา เช่น รักษาหรือป้องกันโรค หายจากความเจ็บป่วยแบบหายขาด ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีผลข้างเคียง ช่วยฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น แสดงสรรพคุณยาอันเป็นเท็จหรือเกินจริง เช่น มีพลังอย่างน่าตื่นตาตื่นใจในการขับไล่เลือด ช่วยกระชับมดลูก คืนความสาว การแสดงสรรพคุณยาอันตรายหรือควบคุมพิเศษ และเมื่อตรวจสอบพบว่าโฆษณาในกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.ในการโฆษณาอีกด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร พบว่าเกือบทั้งหมดนำเสนอข้อความโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร เช่น ดื่มแล้วได้ผลตั้งแต่ขวดแรก ช่วยทำลายเซลล์มะเร็ง เซลล์เนื้องอก ทำลายไขมัน เป็นต้น

สำหรับมิติด้านการใช้และผลิตซ้ำค่านิยมทางสุขภาพ ความงาม เพศ พบว่า มักมีการใช้ภาษาหรือถ้อยคำที่แสดงสรรพคุณที่เป็นสำนวน สร้างค่านิยมในแบบต่างๆ และ ใช้ภาษาที่อวดอ้างสรรพคุณเช่น “มีน้ำมีนวล” “นกเขาไม่ขัน”  “ฟิตกระชับหุ่นเฟิร์ม”  “อกโตเต่งตึง” “มั่นใจไร้กลิ่น” “ทั้งใหญ่ ทั้งแข็งดี ทนนาน” เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ของโฆษณาที่ทำการศึกษา จะเน้นในเรื่องสุขภาพและสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งจะใช้วิธีการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ที่สื่อนัยแสดงถึงสรรพคุณยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่  อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์โฆษณาทั้งหมดมักจะเป็นการโฆษณาที่โอ้อวดเกินจริง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือ ยา ซึ่งนอกจากภาครัฐจะต้องเข้มงวด ประชาชนยังต้องแยกแยะและรู้จักป้องกันสิทธิประโยชน์ของตนเองด้วย

อย่างไรก็ตาม “เชื่อว่าสถานการณ์ปัญหาจริงมากกว่าที่ทำการสำรวจ เนื่องจากมีดาวเทียม เคเบิลทีวี วิทยุชุมชนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนอยู่ในภาวะเสี่ยงในการเสียรู้ เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ ไปจนถึงเสียชีวิต อย่างไร้การปกป้องคุ้มครอง ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องหามาตรการตั้งแต่การตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ ที่ต้องขออนุญาต การควบคุมการเผยแพร่โฆษณา การปราบปรามยุติการเผยแพร่ สร้างหลักเกณฑ์ ในทางจริยธรรมและการกำกับดูแลกันเองของสื่อในด้านการโฆษณาผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการด้าน อาหาร ยา สุขภาพ ความงาม และการปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษให้มากขึ้นและเกิดการบังคับใช้จริง” ผศ.ดร.ภญ.นิยดา กล่าว.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.