"บิ๊กปู"โชว์พาว หย่าศึกคลิปฉาว

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8263 ข่าวสดรายวัน

"บิ๊กปู"โชว์พาว หย่าศึกคลิปฉาว

คลิปเสียง "คนแดนไกล" สนทนา กับคนเสียงคล้าย "บิ๊กอ๊อด" พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม

เลยจุดที่มานั่งถกเถียงกันว่าเป็นเสียงจริงหรือเสียงคล้าย เพราะ "หนุ่มโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร เฉลยไปแล้วเรียบร้อย

สงสัยกันอยู่บ้างก็ตรงเป็นคลิปเสียงจริงทั้งดุ้น หรือผ่านการตัดต่อเพื่อจุดประสงค์บางประการ เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงปล่อยออกมา

กระนั้นตัดต่อ ไม่ตัดต่อ ยังน่าสนใจน้อยกว่า "เนื้อหา" ในคลิปที่กล่าวพาดพิงบุคคลระดับบิ๊กๆ ในกองทัพ รวมถึงแผนผลักดันกฎหมาย ปูทางพาคนแดนไกลกลับบ้านเกิดแบบเท่ๆ

เฉพาะ 2 ประเด็นนี้ก็ทำให้กรณีคลิปเสียงกลายเป็นคิวร้อนสอดแทรก ซ้ำเติมรัฐบาลที่เพิ่งตั้งหลักได้จากการปรับครม. "ปู5" ให้ทรุดตัวลงไปอีก

จากที่ "งานเข้า" ไม่หยุดหย่อนมาตั้งแต่ปัญหานโยบายรับจำนำข้าว ที่ยังเคลียร์ไม่สะเด็ดน้ำ

ป.ป.ช.เล่นบทรับ-ส่งลูกกับฝ่ายค้านและฝ่ายต้านรัฐบาล ตั้งท่ารอ "ลงดาบ" ก่อนนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการและโฆษกป.ป.ช.จะพ้นวาระอายุครบ 70 ปี วันที่ 18 ก.ย.

ถ้าดูจากประวัติศาสตร์ความเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา ก็พอคาดเดาได้ว่าผลสรุปน่าจะออกมาเป็นผลลบกับรัฐบาลมากกว่าผลบวก

ส่วนจะร้ายแรงถึงขั้นไหนต้องลุ้นระทึกกันต่อไป

มาถึงเรื่องงบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ก็ยังถูกเบรกโดยคำสั่งศาลปกครองกลาง ให้รัฐบาลต้องกลับไปเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนผู้ได้รับ ผลกระทบ

และทำวิจัยสำรวจด้านสิ่งแวดล้อมให้ชัดเจนก่อนถึงเดินหน้าโครงการต่อไปได้

รัฐบาลอยู่ระหว่างชั่งใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่

ขณะที่ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ เมกะโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลคาดหวังให้เป็นผลงานชิ้นโบแดง

ล่าสุดนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ออกมาท้วงติงว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเงินการคลัง

เปิดช่องเครือข่ายฝ่ายต่อต้านไล่ขย้ำรัฐบาลแบบเต็มๆ

กลับมายังปมร้อน"คลิปเสียง"ที่ถูกปล่อยออกมา

ไม่ต่างจากสารกระตุ้นให้ต้องเพ่งเล็งไปยังความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับผู้นำเหล่าทัพ

ต้องยอมรับว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นายกฯยิ่งลักษณ์ พัฒนาความสัมพันธ์กับกองทัพที่เคยอยู่ในแดนลบมาตั้งแต่เหตุการณ์ 19 ก.ย. 2549 ขยับขึ้นมาอยู่แดนบวก ชะล้างความหวาดระแวงต่อกันหายไปเกือบหมด

คลิปเสียงจะส่งผลสะเทือนต่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ให้หันเหไปในทิศทางใด

ท่ามกลางฝ่ายค้านและเครือข่ายจ้องขยายผลเต็ม สตรีม หยิบยกเนื้อหาในคลิปที่พาดพิงถึงบรรดาบิ๊กๆ ขึ้นมาตอกลิ่มสร้างรอยร้าว

จึงไม่แปลกหากใครต่อใครต่างเฝ้าติดตามทุกกิริยาอาการ ต่อการเดินทางเข้ากระทรวงกลาโหมวันแรกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะรมว.กลาโหมหญิง เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา

แล้วก็เป็นฝ่ายกองเชียร์รัฐบาลต่างพากันโล่งอก เนื่องจากบรรยากาศการพบหน้าเป็นไปอย่างราบรื่น

ผู้นำกองทัพไม่ว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และพล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร.

เข้าแถวต้อนรับรัฐมนตรีหญิงแบบจัดเต็ม ไม่มีใครหายหกตกหล่น

ในพิธีต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งได้ฉายาใหม่ "บิ๊กปู" ประกาศยืนยัน

รัฐบาลให้ความสำคัญและให้เกียรติกองทัพ หน่วยงานหลักค้ำจุนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงป้องกันประชาธิปไตยเพื่อความผาสุกของประชาชน

ทั้งยังกล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของรมว.กลาโหมคนใหม่ ว่าพร้อมสนับสนุนการทำงานของกองทัพในทุกมิติ เพื่อให้เกิดเอกภาพในการทำงานบนบรรยากาศราบรื่น

รับปากจะไม่ใช้อำนาจเข้าไป"ล้วงลูก"แต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร โดยทุกอย่างปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของสภากลาโหมที่มีกฎหมายกำกับอยู่

ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่หลุดออกมา

นายกฯ ยืนยันให้พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่กำลังเผชิญแรงเสียดทานอย่างหนักทั้งจากคนในพรรคและนอกพรรค อยู่ในตำแหน่งต่อไป

ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ให้ผลงานเป็นตัวตัดสิน

"บิ๊กปู"มั่นใจนำพารัฐบาลฝ่าคลื่นคลิปฉาวไปได้

ด้านปฏิกิริยาผู้นำกองทัพโดยเฉพาะผู้ถูกเอ่ยถึงในคลิป

เริ่มจาก "บิ๊กจิน" พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ตามมาด้วย "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และล่าสุดก็เป็น "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส.

แม้ความรู้สึกลึกๆ แล้วอาจจะมีความไม่พอใจอยู่บ้างกับเนื้อหาบางช่วงบางตอนในคลิป ที่ฟังแล้วเหมือนกองทัพยอมซูเอี๋ยกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

เพื่อประโยชน์ส่วนตัวบางอย่าง

แต่เบื้องหน้าที่แสดงให้สังคมได้เห็นคือ ทหารทุกเหล่าทัพยังหนักแน่น ไม่ติดใจ ไม่แสดงอาการหวั่นไหว หรือ ไม่พอใจใดๆ แม้แต่กับพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ที่เป็นตัวต้นเรื่องทั้งหมด

ไม่มีอะไรให้ "บิ๊กปู" ต้องกระอักกระอ่วนในการเข้ากระทรวงวันแรก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าท่าทีของบิ๊กเจี๊ยบ บิ๊กจิน หรือบิ๊กตู่ นำมาซึ่งความผิดหวังของฝ่ายค้านและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

เนื่องจากได้รับรู้ชัดเจนไม่ว่าพยายามยั่วยุ ยุยงทหารอย่างไรก็"ปลุกผีปฏิวัติ"ไม่สำเร็จ เพราะทหารก็เป็นคน ย่อมรู้จักถอดบทเรียนเก่าๆ

กระนั้นก็ตามในมุมกลับกันที่น่าห่วงก็คือ

เมื่อฝ่ายค้านและฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล รู้ว่า ไม่สามารถพึ่งพากองทัพเป็นเครื่องมือกรุยทางเข้าสู่อำนาจทางการเมืองด้วยวิธีพิเศษได้อีกต่อไป

ความหวังเดียวที่จะสอยรัฐบาลชุดนี้ให้ร่วง จึงต้องฝากไว้กับองค์กรพิเศษบางแห่ง

ผ่านขบวนการ "เช็กบิล" นโยบายรับจำนำข้าว ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน งบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ปรองดอง

เหล่านี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้

เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ 1 ส.ค. คือการนับถอยหลังสู่สงครามการเมืองขั้นแตกหัก

หน้า 3