วันนี้(8ก.ค.)นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวระหว่างการเปิดประชุมสัมมนาวิชาการ 1 ทศวรรษของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ฐานการศึกษาของปวงชน ที่ รร.มิราเคิลแกรนด์ ว่า  สพฐ.ถือเป็นหน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ที่ดำเนินการมาเป็นเวลา 10 ปีแล้วในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่เด็กและเยาวชนวัยเรียน ซึ่งผลงานที่ผ่านมาได้ปรากฎชัดต่อสาธารณชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของประชากรไทย เพื่อความมั่นคงยั่งยืนและสร้างความเจริญก้าวหน้าต่อประเทศชาติในอนาคต อย่างไรก็ตามหากมองไปข้างหน้าสิ่งที่ต้องคำนึงถึง และถือเป็นแนวทางสำคัญเพื่อการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอย่างเต็มภาคภูมินั้น สพฐ.จะต้องส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การปฏิรูปหลักสูตร ให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้เรียน และพัฒนาครูด้วยการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนให้เท่าทันกับเทคโนโลยี

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้โจทย์สำคัญของการศึกษาอยู่ที่ว่าจะผลิตคนอย่างไรให้ตรงกับความต้องการของประเทศ นอกจากนี้จะต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ผมสัมฤทธิ์ของเด็กดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับปรุงและพลิกโฉมการจัดการศึกษา เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมของคนให้รู้จักคิดวิเคราะห์ มีทักษะทางด้านภาษา และปรับตัวเข้าสู่โลกใหม่ที่เรียกว่ายุคโลกดิจิตอล พร้อมกันนี้จะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้คนสามารถเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และแข่งขันกับนานาประเทศได้ด้วย

"ขณะนี้ ศธ.มีปัญหาใหญ่ที่จะต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาเด็กออกกลางคัน ซึ่งเด็กเหล่านี้ไม่สามารถไปประกอบอาชีพเองได้ ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมกันคิดว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าวและสร้างอาชีพให้แก่เด็กกลุ่มนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้ผมอยากฝากถึง สพฐ.ว่าไม่อยากให้ไปยึดติดกับเงินอุดหนุนรายหัวของนักเรียนจนไม่ยอมปล่อยให้เด็กไปเรียนอาชีวะ เพราะขณะนี้สัดส่วนการเรียนสายอาชีพและสายสามัญยังไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ที่ 50 ต่อ 50” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว