เรียกได้ว่าเมื่อถึงหน้าฝน ยิ่งมีน้ำท่วมขังด้วยแล้ว สารพัดโรคมีมาให้เลือกเป็นกันได้มากมาย บางโรคนั้นเป็นแล้วยังสบาย ๆ บางโรคอาจถึงตาย ยังมีบางโรคกลัวตายเดี่ยว เลยแพร่กระจายชวนกันตายหมู่
โรคที่ร้ายแรง เป็นแล้วอาจตายได้ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีความรุนแรงชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขยังออกมาประกาศเตือนภัยให้ระวังโดยเฉพาะในหน้าฝนพรำอย่างนี้ก็คือ “ไข้เลือดออก” โดยสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกในปีนี้พบสูงมากกว่า

ปีที่ผ่านมา 3 เท่าตัว ปัญหามีความรุนแรงมากกว่าเดิม ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ความสำคัญกับโรคไข้เลือดออกในลำดับต้น และได้สั่งการให้อธิบดีกรมควบคุมโรคติดตามดูแลโรคนี้ทั้งเรื่องมาตรการป้องกันเพื่อลดจำนวนผู้ป่วย และการรักษาผู้ป่วยเพื่อลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด

จังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ซึ่งพบการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกรุนแรงและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนยากแก่การควบคุมและถือว่าสถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยในปี 2555 พบยอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั้งสิ้นเพียง 37 ราย แต่สำหรับในปีนี้พบมีผู้ป่วยแล้วทั้งจังหวัดตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 26 มิถุนายน จำนวน 406 ราย พบระบาดมากที่สุดในอำเภอเมือง 227 ราย รองลงมาคืออำเภอแม่สะเรียง 50 ราย อำเภอปายเมืองท่องเที่ยว 46 ราย ซึ่งข้อมูลพบว่าผู้ป่วยเกินครึ่งนั้น เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี รองลงมาคือเด็กอายุ 10 -14 ปี และกลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งถือเป็นสถิติตัวเลขที่สูงมากในรอบ 10 ปี

นพ.ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่แม่ฮ่องสอนว่าน่าเป็นห่วงมาก ขณะนี้พบมีการเกิดโรคทุกอำเภอ รวมผู้ป่วยทั้งจังหวัดพุ่ง 406 ราย แม้หน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พี่น้อง อสม. ทุกอำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เร่งรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายมาตั้งแต่ต้นปีก็ตาม แต่ยังมีปัจจัยทำให้เกิดการแพร่ระบาดคือ ความร่วมมือของพี่น้องประชาชนบางพื้นที่ยังขาดความตระหนักที่จะดูแลและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านเรือน และที่สาธารณะ ประกอบกับระยะนี้ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ยุงลายจะแพร่พันธุ์แบบทวีคูณ ออกไข่ครั้งละ 100-200 ฟอง ทำให้มียุงลายเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก และเกิดการระบาดของโรคนี้ ซึ่งยุงลายชอบกัดดูดเลือดคนในเวลากลางวัน

นพ.ไพศาลกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้จัดอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสำหรับแพทย์ พยาบาล รพ.สต. ครู และผู้นำชุมชน โดยการอบรมถ่ายทอดผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปทุกอำเภอ เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ เข้าใจแนวทางการวินิจฉัยและรักษาพยาบาลผู้ป่วยไข้เลือดออก ซึ่งจะนำไปสู่การลดปัญหาเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก

ส่วนที่อำเภอปายเมืองท่องเที่ยวยังพบการระบาดของโรคไข้เลือดออกมีผู้ป่วย 46 ราย พบมากที่สุดในย่านแหล่งท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าขาม หมู่ 3 ต.เวียงใต้ อ.ปาย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการลูกจ้าง ซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่

นายสุรเพชร สิทธิเพชร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.เวียงใต้ อ.ปาย กล่าวว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการและลูกจ้างแรงงานที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยตนและทางชุมชนได้ประชุมเกี่ยวกับการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยขอความร่วมมือไปยังกลุ่มผู้ประกอบการ และประชาสัมพันธ์เสียงตามสายทุกวันให้ชุมชนและผู้ประกอบการ

รวมถึงนักท่องเที่ยว ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและดูแลรักษาความสะอาดไม่ให้มีเศษภาชนะและแหล่งน้ำขังภายในบริเวณที่อยู่อาศัยและย่านถนนคนเดิน ซึ่งเป็นสถานบริการแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนของอำเภอปาย นอกจากนี้ได้ประสานไปยังประธานชมรมการท่องเที่ยวอำเภอปาย ให้กำชับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในปาย ถึงการให้ความร่วมมือกับชุมชนในการรณรงค์ป้องกันและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ซึ่งจะสามารถช่วยสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกได้

นายเฉลิมชัย จารุมณี สาธารณสุขอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่อำเภอปาย ทางสาธารณสุขอำเภอ ได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าตรวจตามบริเวณบ้านเรือนในเขตชุมชนที่พบการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกทุกวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังพบว่ามีแหล่งเพาะพันธุ์

ยุงลายอีกจำนวนมากตามเขตชุมชนหลายแห่งในพื้นที่ อ.ปาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และแหล่งน้ำขังตามบริเวณบ้านเรือน พร้อมทั้งได้แจกจ่ายทรายอะเบทให้กับชาวบ้านเพื่อนำไปใส่ในกระถางต้นไม้และภาชนะบรรจุน้ำต่าง ๆ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการพ่นหมอกควันและฝอยละออง ตามเขตพื้นที่ชุมชนทุกแห่งที่พบมีการแพร่ระบาดของโรค เพื่อกำจัดยุงลายและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรค พร้อมย้ำเตือนให้ทุกฝ่ายร่วมกันรณรงค์ควบคุม และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างเด็ดขาด และกำชับไปยังผู้นำหมู่บ้านประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านตื่นตัว ร่วมกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น.

สุชานรี ศิริโม