วันนี้ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ วัดสุนันทวนาราม สาขาวัดหนองป่าพงที่ 117 บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค  จ.กาญจนบุรี ซึ่งเคยเป็นที่จำพรรษาของอดีตพระมิตซูโอะ พบว่าบรรยากาศตั้งแต่ปากทางเข้าวัดค่อนข้างเงียบเหงา บริเวณซุ้มประตูทางเข้ามี เจ้าหน้าที่คอยบริการบอกเส้นทาง ให้เข้าไปด้านใน จากนั้นจะมีบาสิกาคอยให้การต้อนรับ และแจกหนังสือธรรมะคำสอนของอดีตพระมิตซูโอะ ให้แก่ประชาชนที่เข้าไปเยี่ยมชมทุกคน

ทั้งนี้บริเวณจุดบริการประชาชนหรือผู้จะเข้าไปปฎิบัติธรรมได้พบ อุบาสิกาท่านหนึ่งไม่ยอมเปิดเผยนามเพียงแต่บอกว่าชื่อ อุบาสิกาเกตุ อายุ 53 ปี ปฎิบัติธรรมและศึกษาวิปัสสนากรรมฐานสายวัดหนองป่าพงมาเป็นเวลา 13 ปี และมาอยู่ปฎิบัติที่วัดแห่งนี้ได้ 3 ปีแล้ว

อุบาสิกาเกตุ ได้เล่าให้ฟังว่า วัดสุนันทวนาราม มีพระเณรจำพรรษาจำนวน 20 รูป มีการปฎิบัติธรรมตามปกติทุกวัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนประชาชนก็มีติดต่อเข้ามาปฎิบัติธรรมเป็นหมู่คณะเหมือนเดิม เพิ่งจะกลับกันไปจำนวน 80 คนเมื่อสองวันที่ผ่านมา ตอนที่อดีตพระมิตซูโอะ ยังเป็นพระสงฆ์ท่านถือปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรเสียหาย และเวลาเดินทางไปไหนก็จะมีพระเณรอยู่เคียงข้างตลอดเวลา ที่ผ่านมาได้สร้างความเจริญให้กับศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก และที่นี้ก็เป็นสถานปฎิบัติธรรมที่ดีแห่งหนึ่งด้วยฝีมือของอดีตพระมิตซูโอะ ท่านสร้างแต่ความดีที่ให้ระลึกถึงอยู่ในใจตลอดเวลา ตอนนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับที่นี้ เพราะเป็นฆราวาสไปแล้ว มีสิทธิ์ทำอะไรได้เหมือนปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป

เท่าที่ทราบก่อนหน้านี้อดีตพระมิตซูโอะก็เคยปรารภว่า “อายุเยอะขึ้นจะกลับไปบ้านไปช่วยชาวญี่ปุ่น” ส่วนเรื่องเงินบริจาคทั้งหมดทางนี้ไม่ได้เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องทางมูลนิธิฯที่กรุงเทพจัดการต่อไป ท่านก็ได้สร้างไว้ให้โดยมิได้นำติดตัวกลับไป และผู้ปฎิบัติธรรมทุกคนก็จะระลึกถึงอดีตพระมิตซูโอะในฐานะที่เคยเป็นพระที่ปฎิบัติธรรมที่ดีและสร้างสถานปฎิบัติธรรมแห่งนี้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้เดินชมภายในวัดแห่งนี้ ปากฎว่าไม่มีผู้คนมากมายเหมือนเคย มีแต่ผู้ที่ต้องการเข้ามาปฎิบัติธรรม และมีการก่อสร้างลานปฎิบัติธรรม โดยมีคนงานทำงานอยู่ประมาณ  7-8 คนเท่านั้น โดยสถานที่ปฎิบัติธรรมแต่ละแห่งได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีตลอดเวลา.