หลวงพ่อคูณ บ่นอยากกลับวัด แพทย์เผยเสลดเสมหะลดลงชัดเจน จากช่วงแรก 100% เหลือ 70% แต่ไม่อนุญาตให้ออกนอกห้อง เนื่องจากอากาศเย็น เพราะมีฝนตก ยังให้ทำกายภาพต่อเนื่อง...
จากกรณีอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ด้วยอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และหลอดลมอักเสบ โดยคณะแพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณพักรักษาอาการอาพาธที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ค. 2556 นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ และหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยภายหลังตรวจอาการว่า อาการท่านคล้ายเดิม ไม่มีไข้ รู้ตัว รู้เรื่อง ตื่นตัวค่อนข้างดีขึ้นชัดเจน เสลดเสมหะลดลง แต่ยังถือว่าเยอะอยู่ซึ่งต้องดูดออกวันละ 2-3 ครั้ง สังเกตว่าช่วงที่เราให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ ช่วงนั้นท่านจะมีเสลดเสมหะอยู่ในลำคอเยอะมาก แต่พอหยุดยาแล้วให้ในรูปฉันเสลดเสมหะลดลงชัดเจน จากมีเสลดเสมหะ 100% ตอนนี้ลดลงเหลือ 70% ประมาณนี้ แสดงว่า ท่านตอบสนองเห็นผลดีขึ้น ตอนนี้ยังต้องพ่นยาขยายหลอดลม ให้ยาละลายเสมหะ ล้างกระเพาะปัสสาวะ รักษาประคับประคองไป โดยยาปฏิชีวนะในรูปฉันต้องให้อีก 2 วัน จากนั้นคณะแพทย์จะประเมินสังเกตอาการ ช่วงนี้เราต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนในระบบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องโรคประจำตัวท่าน ส่วนหลอดลมที่อักเสบดูท่านค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้ว
นายแพทย์พินิศจัย กล่าวต่อว่า ส่วนสภาพอากาศวานนี้ (29 พ.ค.) ฝนตกทั่วพื้นที่และวันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝน อากาศเย็นคงต้องเฝ้าระวังมาก แม้ว่าระบบห้องจะควบคุมอุณหภูมิอากาศดันออกจากห้องเวลาเปิดประตู ไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไป และงดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ไม่ 100% เต็มที่ ฉะนั้นเรื่องการเฝ้าระวังภาวะหลอดลมต้องดูแลใกล้ชิด และยิ่งภาวะถ้าเป็นไข้จะเป็นเรื่องใหญ่มาก ช่วงนี้ให้ท่านทำกายภาพบำบัดปั่นจักรยานไฟฟ้า นวดแผนไทย บีบนวดเบาๆ ยืดแขน ยืดขาเพื่อให้ไขข้อไม่ติด ไม่ให้เส้นตึง ส่วนการออกจากห้องถ้ามีฝนตก ละอองฝน ลมเย็นคงไม่ให้ท่านออกไป แต่ถ้าอากาศดีๆ จังหวะเหมาะสมก็จะให้ท่านออกไปรีแลกซ์ ได้เจอผู้คน ให้ท่านได้ทำในสิ่งที่คุ้นเคยเหมือนที่ท่านอยู่ที่วัด ถ้าคุ้มกับการทำให้ท่านสดชื่น อารมณ์ดี ไม่รู้สึกจำเจเราก็จะทำ ช่วงนี้มีบ้างที่ท่านบ่นอยากกลับวัดบ้านไร่ แต่ยังไม่บ่นหนักๆ.
