ชักไปได้ไม่ค่อยสวย แม้ว่าจะทำตัวเลขสมาชิกแตะ 1,000 ล้านคนทั่วโลกได้สำเร็จ เพราะสมาชิกในกลุ่มวัยรุ่นเริ่มไม่ค่อยปลื้มเฟซบุ๊กสักเท่าไร เนื่องจากเบื่อหน่ายที่ต้องถูกพ่อ–แม่ส่อง คนแก่เล่นเยอะ และยังมักจะเจอคนไม่ค่อยจริงใจ โพสต์ไร้สาระตลอดเวลา
เว็บไซต์แอตแลนติก ไวร์ รายงานว่า ขณะนี้วัยรุ่นกำลังเสื่อมความนิยมในเฟซบุ๊กลงไปทุกขณะ โดยหันไปหาทวิตเตอร์ และ Tumblr แทน สอดคล้องกับเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเฟซบุ๊กได้รายงานต่อนักลงทุนว่า ขณะนี้สมาชิกวัยรุ่นของเฟซบุ๊กกำลังหันไปหาบริการของเว็บไซต์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน หรือทดแทนกันได้
ขณะที่ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา Piper jaffray ยังรายงานว่า ผลิตภัณฑ์และบริการอย่างทวิตเตอร์และ Tumblr กำลังสั่นคลอนอำนาจผูกขาดจากเฟซบุ๊กทีละน้อย และเมื่อพิจารณาลงลึกถึงผลงานวิจัยจาก Pew ก็พบว่าเทรนด์นี้กำลังบั่นทอนเฟซบุ๊กเป็นอย่างมาก เนื่องจากงานวิจัยพบว่ากลุ่มผู้ใช้วัยรุ่นทยอยตีจากเฟซบุ๊ก เพราะพวกเขากำลังมองหาบริการที่เป็นจริงกว่า น่าเชื่อถือกว่า ซึ่งที่สุดแล้ว อาจกลายเป็นปัจจัยตอกย้ำเฟซบุ๊กว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่สมาชิกและผู้ลงทะเบียนใช้เฟซบุ๊กจะต้องใช้ชื่อจริง เพื่อแสดงตัวตนที่แท้จริงเสียที
Pew ยังพบว่า วัยรุ่นสมัครใช้เฟซบุ๊กน้อยลงอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ต้องการหลีกหนีจากการถูกสอดส่องของบิดา-มารดา, การต้องเป็นเพื่อนกับผู้ใหญ่และคนแก่,เรื่อง “ดราม่า” ไร้สาระที่ถูกแชร์กันไปมาบนเครือข่าย รวมทั้งคำหยาบคาย จาบจ้วง หรือการแสดงความคิดเห็นแบบสุดโต่ง ซึ่งไม่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
อย่างไรก็ตาม หลังเอือมระอากับพฤติกรรมบนเฟซบุ๊กมาพักใหญ่ เหล่าวัยรุ่นไม่ได้ถึงกับปิดบัญชีการใช้งานเฟซบุ๊กเสียทีเดียว เพียงแต่พวกเขาใช้งานเฟซบุ๊กน้อยลงเรื่อยๆ ทุกที ทุกที และหันไปใช้ทวิตเตอร์ Tumblr และอินสตาแกรม ซึ่งอนุญาตให้โพสต์ข้อความจำกัด หรือลงภาพถ่ายง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แทนมากขึ้น
Pew ยังยกตัวอย่างผลสำรวจจากการสัมภาษณ์วัยรุ่น เช่น เด็กหญิงวัย 15 ปี บอกว่า เธอสมัครใช้บริการทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และ Tumblr แต่ขณะนี้แทบไม่ได้ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ แต่ใช้ Tumblr เป็นหลักในการเข้าไปหาเรื่องราวสนุกๆอ่าน เธอชอบ Tumblr เพราะบน Tumblr เธอไม่ต้องสร้างภาพ ลงรูปปลอม หรือสื่อสารกับคนที่ไม่ต้องการคุยด้วย
ขณะที่เด็กหญิงวัย 14 อีกราย บอกว่า เฟซบุ๊กก็สนุกดี แต่ว่าก็มีเรื่องราวดราม่ามากๆบนนั้น บนเฟซบุ๊ก คนมักเขียนสิ่งที่คิดว่าจะทำให้ทุกคนกด ‘ไลค์’ Like ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาจะไม่ทำจริง หรืออาจไม่ใช่สิ่งที่จะทำในชีวิตจริง ส่วนเด็กชายวัยรุ่น 18 ปี ระบุว่า เบื่อเฟซบุ๊กเพราะคนชอบลงรูปไร้สาระ พูดเรื่องไร้สาระ เช่น บอกว่าเขามีแฟน ไปไหนกับแฟน แล้วก็แท็กแชร์ไปหาคนนั้นคนนี้ เพราะมีความสุขด้วยกันมา “ผมไม่เข้าใจว่าจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร”.
