ระเบิดลูกที่3 แรงต้านจากแดง

วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8214 ข่าวสดรายวัน

ระเบิดลูกที่3 แรงต้านจากแดง

ร่างพ.ร.บ.ปรองดองฉบับของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ

ถูกจัดเป็นระเบิดเวลาลูกที่ 3 ต่อจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่างพ.ร.บ. นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย

ล่าสุดร.ต.อ.เฉลิมมอบหมายนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร มือกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นเสนอร่างดังกล่าว ซึ่งมี 163 ส.ส.ลงชื่อสนับ สนุน ต่อประธานสภาผู้แทนฯ เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเรียบร้อยแล้ว

ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากภายนอกและภายในพรรคเพื่อไทยทั้งในส่วนของส.ส. คนเสื้อแดงและครอบครัวผู้เสียชีวิต 99 ศพจากเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค.2553

ที่เพิ่งมีการจัดงานรำลึกครบรอบ 3 ปีเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคนเสื้อแดงหลายหมื่นคนเดินทางมาร่วมงานทวงถามความยุติธรรมให้กับวีรชนและผู้สูญเสีย

ในการสไกป์เข้ามายังเวทีแยกราชประสงค์วันดังกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวสนับสนุนการเดินหน้าร่างพ.ร.บ. นิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย เหมะ ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ตรงการนิรโทษกรรมมวลชนทุกกลุ่มทุกสี เว้นแกนนำและผู้สั่งการ

โดยไม่ได้กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ปรองดองของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั่นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเคยทำ"ปืนลั่น"มาก่อน รู้ดีว่ามวลชนคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย

มีการตั้งข้อสังเกตต่อมาว่า

จริงอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พูดถึงร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่กำลังเป็นปัญหาถูกวิพากษ์วิจารณ์

แต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม หรือแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยเช่นกัน

สําหรับร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่ยื่นต่อสภา มีการตัดมาตรา 5 เกี่ยวกับเรื่องเงินเยียวยาออกไป ทำให้เหลือแค่ 5 มาตรา จากเดิม 6 มาตรา

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข อ้างว่าเนื่องจากรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบแล้ว มาตรา 5 จึงไม่จำเป็น

แต่เบื้องหลังรับรู้กันว่า การตัดมาตรา 5 ก็เพื่อเลี่ยงไม่ให้เข้าข่ายกฎหมายการเงิน ที่นายกฯ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบลงนามเสนอร่างกฎหมาย

เพราะไม่เช่นนั้นจะขัดกับสิ่งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่า การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ทุกอย่างปล่อยเป็นหน้าที่สภาพิจารณาดำเนินการ

ส่วนท่าทีของพรรคเพื่อไทย ด้านหนึ่งมีมติหนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย

แต่ก็ไม่ได้คัดค้านร่างพ.ร.บ.ปรองดองของร.ต.อ.เฉลิม โดยอ้างว่าเป็นสิทธิของส.ส.ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติสามารถดำเนินการได้

ถึงกระนั้นการตัดมาตรา 5 ก็ไม่ได้ช่วยให้กระแสคัดค้านอ่อนกำลังลง โดยเฉพาะจากพรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายนอกสภาที่มุ่งโจมตีมาตรา 4

เกี่ยวกับข้อกล่าวหาการกระทำความผิดใดๆ ที่เกิดจากคำสั่งของคณะรัฐประหาร จากคณะบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งของคณะรัฐประหาร 19 ก.ย.2549

ให้เป็นอันระงับไป โดยให้ถือว่าผู้นั้นไม่ได้กระทำความผิด

เครือข่ายฝ่ายต่อต้านมองว่า มาตรา 4 มี เป้าหมายช่วยให้พ.ต.ท.ทักษิณได้รับทรัพย์สินที่ถูกยึดไป 4.6 หมื่นล้านบาทกลับคืน

ทั้งยังปักใจเชื่อว่าการเสนอร่างปรองดองเพิ่มเติม เข้ามา ทั้งที่มีร่างกฎหมายลักษณะเดียวกันค้างวาระอยู่ในสภา 3-4 ฉบับ รวมถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ

เป็นแค่เกม"สับขาหลอก"

เพราะเป็นไปได้ว่าในที่สุด รัฐบาลเพื่อไทยจะใช้เสียงข้างมากนำร่างทั้ง 2 ฉบับมา"ยำ"รวมกัน

เพื่อประโยชน์สูงสุดทั้งของคนเสื้อแดงและพ.ต.ท.ทักษิณ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เป็นปัญหาและคนเสื้อแดงทำใจรับไม่ได้คือ ข้อความมาตรา 3 ที่ระบุ

บรรดาการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวระหว่าง พ.ศ.2549 จนถึงวันที่พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ หากมีการกระทำใดเป็นความผิดตามกฎหมาย ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำนั้น ไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้น พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และความรับผิดโดยสิ้นเชิง

ในกรณีผู้กระทำการตามวรรคหนึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวน ให้ผู้มีอำนาจสอบสวนระงับการสอบสวนผู้นั้น ถ้าอยู่ในระหว่างการฟ้องร้อง ให้พนักงานอัยการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับการฟ้อง ถ้าอยู่ ในระหว่างพิจารณาคดี ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ถ้ามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง

ให้นำความในวรรคหนึ่งและวรรคสอง มาใช้บังคับกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลใดๆ อันเกี่ยวเนื่องจากการป้องกัน ระงับหรือปราบปรามในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือการ กระทำใดที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว ตามวรรคหนึ่งด้วยโดยอนุโลม

เพื่อประโยชน์แห่งพ.ร.บ.นี้ การชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หมาย ความว่า การกระทำหรือการแสดงความคิดเห็นเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการใดๆ ตามข้อเรียกร้อง

และให้หมายความรวมถึงการยึดหรือปิดสถานที่เพื่อประท้วง การต่อสู้ขัดขืนในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน

ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง

สรุปสาเหตุหลักที่คนเสื้อแดงรับไม่ได้ก็เพราะเนื้อหามาตรา 3 ครอบคลุมแบบเหมาเข่ง

ทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการ นำมาสู่ความตาย 99 ศพ บาดเจ็บเกือบ 2,000 คนเมื่อปี 2553

พ้นจากความผิด ไม่ต้องรับโทษใดๆ

ทั้งที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กระบวนการค้นหาความจริงความตาย 99 ศพ ถึงจะเป็นไปอย่างยากลำบาก

แต่ก็สามารถเดินหน้ามาได้ ถึงจุดที่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ

แจ้งข้อกล่าวหาร้ายแรงต่ออดีตนายกฯ และอดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. อย่างน้อย 2 คดี โดยมีแนวโน้มจะทยอยตามมาอีกหลายคดี

ความพยายามในการค้นหาความจริงเพื่อความยุติธรรมนี้ จะถูกล้มเลิกไปภายใต้ร่างพ.ร.บ. ปรองดองนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี

เป็นเช่นนั้นหรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

เพียงแต่ระหว่างนี้รัฐบาลเพื่อไทยต้องไม่ลืมคำเตือนที่ว่า ไม่มีใครสามารถแยกมวลชนคนเสื้อแดงออกจากรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้

ยกเว้นพรรคเพื่อไทยและตัวพ.ต.ท. ทักษิณจะลงมือทำสิ่งนั้นเสียเอง

หน้า 3