หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นนั่งพูดคุยหยอกล้อศิษย์
 


หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นนั่งพูดคุยหยอกล้อศิษย์


หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นนั่งพูดคุยหยอกล้อศิษย์

หลวงพ่อคูณ ดีขึ้นกว่า 80% ใกล้หายนั่งพูดคุยหยอกล้อกับลูกศิษย์ พยาบาลได้ แพทย์เผยเฝ้าระวังสภาวะแทรกซ้อนใกล้ชิด พร้อมกลับวัดบ้านไร่ได้ ระบุยอมรับกังวลปัญหาเสลดเสมหะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย...

นครราชสีมา วันที่ 24 พ.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานอาการอาพาธของเกจิอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ด้วยอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และหลอดลมอักเสบ หลังหลวงพ่อคูณมีอาการซึม มีไข้สูง และมีเสมหะ ติดเชื้อแบคทีเรีย พร้อมกับฉีดยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำจนครบ 14 วัน และได้หยุดยาแล้ว ซึ่งคณะแพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณเข้าพักรักษาอาการอาพาธที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โดยจัดคณะแพทย์ และพยาบาลคอยเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (24 พ.ค. 2556) ที่ห้อง 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธ์ุ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดและหัวใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการ โดยมีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด และพยาบาลคอยให้กำลังใจ ซึ่งหลวงพ่อคูณ มีสีหน้าสดชื่น พูดคุยหยอกล้อกับพยาบาลอย่างเป็นกันเอง

นพ.พินิศจัย กล่าวว่า อาการโดยรวมขณะนี้เมื่อเทียบกับก่อนเข้ารับการรักษาท่านดีขึ้นมากประมาณกว่า 80% คล้ายเดิม ไม่มีไข้ ไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่เสลดเสมหะยังมีเยอะ ยังต้องช่วยดูดออกเช้า เย็น ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะแพทย์กังวลมาก แต่รู้ตัว รู้เรื่องดี

เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.56) ลูกศิษย์ และพยาบาลก็ยังได้พาท่านนั่งรถเข็นลงไปชั้น 2 ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารผู้ป่วยไปยังอาคารจอดรถดูท่านสดชื่นขึ้นชัดเจน แต่ยังคงต้องรอดูอาการของหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด ส่วนภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะเสลดเสมหะ ถึงแม้เราวางระบบควบคุมอุณหภูมิเป็นระบบความดันอากาศเป็นบวก พอเปิดประตูแล้วลมจะดันอากาศข้างในออกมาข้างนอกจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ภายในได้น้อยลง แต่ก็ไม่ได้ 100% ฉะนั้นเรื่องเสลดเสมหะต้องรักษาแบบประคับประคอง เพราะพยาธิสภาพในปอด ไม่ว่าเรื่องถุงลมโป่งพอง เรื่องปอดผิดปกติ ปอดบางส่วนแฟบ หลอดลมบิดเบี้ยว ทางเดินหายใจติดเชื้อได้ง่าย เหล่านี้ทำให้เสลดเสมหะกว่าลดลงจะกลับคืนได้อย่างน้อยต้องเป็นเดือน

นพ.พินิศจัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นอย่างนี้ เรื่องนิมนต์กลับวัดบ้านไร่คงต้องต้นเดือนมิถุนายน หากประเมินแล้วไม่มีอาการแทรกซ้อนก็น่าจะอนุญาตให้หลวงพ่อกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องดูในเรื่องของการปรับปรุงกุฏิเพิ่มเติมในเรื่องของการติดเครื่องสำรองไฟฟ้า เพื่อให้ระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องสามารถใช้การได้ดีอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้อาการหลวงพ่อค่อนข้างคงที่ไม่เกิดการอาพาธได้ง่าย สำหรับอาการโดยรวมถือว่าท่านมีอาการดีขึ้นมากเห็นได้ชัดเจน จึงได้อนุญาตให้พยาบาล ลูกศิษย์พยุงท่านลุกขึ้นจากเตียงมาทำกายภาพบำบัด ด้วยการปั่นจักรยานภายในห้องพักทุกวัน รวมถึงได้จัดผู้เชี่ยวชาญมาทำการนวดตัว และนวดขา ให้กับหลวงพ่อ เพื่อผ่อนคลาย และเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ส่วนเรื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงก็มีส่วนทำให้เสลดเสมหะเยอะ ซึ่งอาจทำให้หลวงพ่อเกิดภาวะติดเชื้อซ้ำซ้อนได้ ช่วงนี้คงต้องของดเยี่ยม งดรับกิจนิมนต์ นพ.พินิศจัยกล่าว.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.