เมื่อปี 2537 พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ประธานจุดเทียนชัย.
ใต้รายวัน...!!
.......เป็นคำพูด ที่รู้กันถึงเหตุ ต่อสถานการณ์ซึ่งผู้ก่อความไม่สงบ กระทำขึ้นเพื่อทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ สร้างความหวาดกลัวให้กับสังคมมาอย่างต่อเนื่อง
เหตุแห่งความเลวร้าย...มิใช่เกิดขึ้นเพียงแค่ 2-3 แห่งดั่งที่ได้เสพข้อมูลผ่านสื่อเป็นข่าวรายวันเท่านั้น มันเกิดขึ้นไปทั่วแทบทุกพื้นที่ โดยไม่จำกัดเพลาว่าวันหนึ่งๆกี่ครั้ง กี่จุด ส่วนจะหนักบ้างเบาบ้าง...นั่นก็แล้วแต่ละสถานการณ์
O O O
เหตุหนักๆ...สร้างความเสียหายมากๆ น่าสะพรึงกลัวสุดๆ ก็มักจะเป็นข่าวใหญ่รายงานผ่าน สื่อสู่สังคม ส่วนย่อยๆก็จัดให้ได้รับรู้กันในท้องถิ่น ไม่ กี่วันก็เลือนลืมแล้วปล่อยหายไป
และ.....กับ ย่อยๆจึงเป็นประเด็นสำคัญซึ่งมนุษย์ผู้เลื่อมใสในศาสน์ ไม่ว่าฮินดู พุทธ คริสต์ อิสลาม ฯลฯ ต่างๆก็หาสิ่งศรัทธาตามบรรพชน เพื่อให้แผ่บารมีพลังลดหรือบรรเทาสถานการณ์ จากหนักเป็นเบาหรือจากเบาเป็นแคล้วคลาด....ผ่านยันตภัย ทั้งหลายอย่างฉลุย
ศักดิ์สิทธิ์วัตถุ.....ที่ได้รับการสืบสานศรัทธาของชาวใต้มายาวนาน ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา คือ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ถึงปัจจุบันยุครัตนโกสินทร์ ก็ยังไม่ลดท่าล่าถอย
O O O
เมื่อปี 2497...พระครูวิสัยโสภณทิม ธัมมธโร ครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้ โคกโพธิ์ ปัตตานี เคยพูดว่า ...แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง... นานกว่าครึ่งศตวรรษแล้วคำนี้ก็ยังจารึกในศรัทธา
ซึ่ง...ก็มักจะ สำแดงออกเป็นรูปธรรมต่อสถานการณ์ใต้รายวัน หลายรายที่ประสบเหตุแล้วมีอันปลอดภัย หรือโดนบ้างก็แค่บาดเจ็บ ถลอกช้ำนอกช้ำในเพื่อให้เอาไว้คุย (โม้) และในจำนวนนี้ แทบทุกรายห้อยพระหลวงปู่ทวด
แล้ว...เมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นขีดอันตราย ก็มักนำเหตุการณ์มาเล่าให้พระครูวรปัญญาประยุต ชาวบ้านเรียก พระครูกอบ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สโมสร เจ้าคณะอำเภอรือเสาะ-ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส (เป็นพุทธสถานที่อยู่กลางชุมชนมุสลิม ซึ่งร่วมในสังคมเดียวกันอย่างสันติสุข) ฟังเสมอๆ
O O O
อย่าง.....เมื่อวันวานจ่าตำรวจท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม) กำลังปฏิบัติ การในเขตหมู่บ้านมา-นังบายอ นราธิวาส แล้วถูกลอบยิง ปรากฏว่ากระสุนด้านจึงพลิกสถานการณ์ตะครุบโจรก่อการร้ายนั้นไว้ได้ ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นพบว่าวันนั้น ห้อยคอเพียงพระผงเนื้อว่านฝังตะกรุดหลวงปู่ทวด เพียงองค์เดียว
พระครูกอบ...ซักไซ้ไล่เลียงถึงความเป็นมา ได้รับตอบว่าพระเครื่ององค์นี้ได้มาจากคุณพ่อ และสาวต่ออีกว่าพ่อได้มาจากไหน ถึงความกระจ่างว่าเป็น พระหลวงปู่ทวดรุ่น พร. ซึ่ง พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส แจก (ฟรี) ให้เป็นที่ระลึก ขวัญและกำลังใจแก่ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ฯลฯ ซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
O O O
เท่านั้นไม่รอช้า พระครูกอบ จึงตรงแหน่วไปหาเจ้าคณะจังหวัดทันที ก็ได้รับคำบอกเล่าว่า ....พระรุ่นนี้สร้างเมื่อปี 2537
หลวงพ่อไม่ได้สร้างเอง ทางกรุงเทพฯเอามาปลุกเสกที่วัดช้างให้ แล้วนิมนต์หลวงพ่อเป็นผู้จุดเทียนชัย และให้เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี (ตอนนั้น) ดับเทียนชัย...
.....หลังพิธีฯ แล้วเสร็จทั้งหมดเขาให้มาส่วนหนึ่ง หลวงพ่อก็จ่ายแจกไปจนเกลี้ยง....
แล้ว พระครูกอบ ก็โยงสายข้อมูลมาที่ต้นตอในการสร้าง พระหลวงปู่ทวดรุ่น พร.มาที่วัด ศรีสุดารามวรวิหาร แขวงบางขุน-นนท์ เขตบางกอกน้อย โดยติดต่อกับ พระราชพิพัฒน์โกศล หรือ หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ในการสร้างพระรุ่นนี้
O O O
หลวงพ่อเณร เล่าถึงความเป็นมาว่า......เมื่อปี 2537 มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสใหม่ๆ วัดศรีสุดาราม อยู่ในสภาพชำรุด ทรุดโทรมมาก ก็มุ่งหวังที่จะพัฒนาปฏิสังขรณ์ และได้รับพระกรุณาฯจาก เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี แนะให้สร้างพระหลวงปู่ทวด
พร้อมทั้งให้เอา...พระนามย่อ พร.ประดิษฐ์ไว้ด้านหลัง
แล้ว.....จึงไปกราบขออนุญาต พระครูอนุกูลฯ หลวงพ่อสวัสดิ์ เจ้าอาวาสวัดชาวให้ (ตอนนั้น) และก็ได้รับคำแนะนำว่า ผู้ที่จะอนุญาตตัวจริงคือ พระครูธรรมกิจโกศล (อาจารย์นอง วัดทรายขาว) สหธรรมิกกับ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ผู้สามารถสื่อกับหลวงปู่ทวดได้
ครั้งนั้น....อาจารย์นอง โอเคพร้อมทั้งมอบผงพุทธคุณให้เป็นมวลสาร 1 ปี๊บ..!!!
O O O
การสร้างได้ทำตามตำราทุกประการแล้ว ประจุตะกรุดทองคำกับตะกรุดเงินไว้ที่ฐานพระทุกองค์ ซึ่งได้นำ ปลุกเสกครั้งแรกที่วัดช้างให้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2537 แล้วนำกลับมา ปลุกเสกที่วัดศรีสุดารามอีกครั้ง โดย หลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี เป็นประธาน
เมื่อ....ปลุกเสกแล้วเสร็จ ประเดิมด้วย นำพระส่วนหนึ่ง ทูลเกล้าถวายเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯเพื่อพระราชทานข้าราชบริพารเป็นที่ระลึกในวันคล้ายวันประสูติ 24 พฤศจิกายน 2537 จากนั้นก็จ่ายแจกแก่พระอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ร่วมพิธีกรรมไปเพื่อจ่ายแจกตามแต่ละวาระ
ส่วนหนึ่งก็เก็บไว้เป็นสมบัติสงฆ์ เพื่อสาธารณประโยชน์แห่งวัดศรีสุดารามวรวิหาร
O O O
ล่วงถึงปัจจุบัน...เกือบ 2 ทศวรรษวัตถุมงคลรุ่นนี้ ได้สำแดงปาฏิหาริย์หลายคนมีประสบการณ์ จนเป็นข่าวฮือฮา สร้างความสนใจในสังคมวิกฤติท่ามกลางภยันตภัยอันร้อนระอุ...
......ส่วนจะคุ้มครองให้ปลอดภัยสุดๆแค่ไหนนั้น อยู่ที่ความเข้มขลังแห่งศรัทธา..!!!
ก้อง กังฟู