ก่อนจะทำพิธีเททอง คณะสงฆ์จีนประกอบพิธีกรรมตามประเพณี.
มวลมนุษยชาติ ต่างยอมรับว่า ประเทศที่มี ประชากรมากที่สุดในโลกคือ....จีน
จำนวนนับพันล้านซึ่งรวมชนชาติ นอกจากจะอาศัยอยู่เป็นอาณาแล้ว บางส่วนยังแพร่กระจายเจริญเติบโตไปทั่วทุกมุมโลก และไม่ว่าจะอยู่ในหนใด เชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ก็ยังคงความเป็นจีน
ด้วย...วัฒนธรรมและประเพณี อันเป็นเอกลักษณ์ในการ สืบสานความเลื่อมใสศรัทธาต่อเทพเจ้าหรือ เซียน ตามบรรพบุรุษ แม้ช่วงระยะหนึ่งบนแผ่นดินใหญ่ ทิศทางของการเมืองจะห้ามในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด...เมื่อคาบเวลาเปลี่ยนไป ท้องฟ้าผ่องอำไพเทพเจ้าทั้งหลายก็สดใสขึ้นมาอีก!!
เฮียงเทียนเสี่ยงตี่หรือ องค์ตั่วเหล่าเอี๊ย.....เป็น เทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งได้รับความเลื่อมใสเป็นที่สุด ด้วยศรัทธาว่า มีพลังในการปกปักอภิบาลและปราบปรามศัตรู พิชิตมาร หรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษ อันเป็นช่วงที่จะย่างก้าวเข้าสู่คาบเวลาใหม่ของปี ผู้คนจะกราบไหว้องค์ตั่วเหล่าเอี๊ยเพื่อความเป็นสิริมงคล
ตำนานเทวปกรณัม ของจีน บันทึกว่า....ณ เมืองลกฮง ชายหนุ่มคนหนึ่งมีอาชีพเป็นนักฆ่า สร้างบาปไว้อย่างสาหัสสากรรจ์ แต่กลับใจยุติ เข้าบำเพ็ญตามลัทธิเต๋าปฏิบัติธรรมตลอดจนสิ้นอายุขัย ด้วยผลบุญจึงจุติบนสวรรค์ องค์เง็กเซียนฮ่องเต้จึงโปรดประทานยศให้เป็นผู้ตรวจภพทิศเหนือ ชื่อ เฮียงเทียนเสียงตี่ มีธงดำเป็นอาญาสิทธิ์ สยบปิศาจร้ายเหยียบเต่าและงู.....มีเสือเป็นพาหนะจึงเรียกว่า เจ้าพ่อเสือ
อีกตำนานว่า อุบัติขึ้นเองบนสวรรค์......บังเกิดเป็นดวงดาวด้วยการรวมตัวของเทพในจักรวาลถึงยุคอึ้งตี่ ณ วันที่ 3 เดือน 3 ของจีน จึงลงมาจุติเป็น มนุษย์ อยู่ในครรภ์นานถึง 14 เดือน พออายุได้ 14 ปี จึงปลีกวิเวกขึ้นไปบนเขาบู๊ตึ้ง.....ร่ำเรียนธรรมในแนว ของเต๋าจนกลายเป็นเซียน
...เง็กเซียนฮ่องเต้ เจ้าแห่งสวรรค์ จึงมอบ หมายให้เป็นเทพประจำทิศเหนือ นาม เฮียงบู้ หมายถึง มีกำลังอันลึกลับอัศจรรย์ บางตำราว่า เฮียงบู้ เป็นอีกภาคหนึ่งของเง็กเซียนฮ่องเต้
บางท้องที่และ บางยุคจะกราบไหว้ เฮียงบู้ ในฐานะของเทพดวงดาว
(...คนโบราณแบ่งชั้นฟ้าออกเป็น 28 ช่องหรือ 28 กลุ่มดาว ในสมัยจั่นกว๋อได้แบ่งกลุ่มดาวจาก 28 ให้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ แล้วใช้ชื่อเป็นสัตว์ คือ มังกรเขียวกลุ่มดาวทิศตะวันออก เสือขาว ทิศตะวันตก นกเจ้าทิศใต้ และเต่าประจำทิศเหนือ....ต่อมาเต่าถูกจับคู่กับงู)
เฮียงบู้ก็คือเทพเจ้าองค์เดียวกับเฮียงเทียนเสี่ยงตี่ หรือ องค์ตั่วเหล่าเอี๊ย...มีวรกายสูง 9 ฟุต ผิวดำ กำยำ แข็งแรง พักตร์ กลมดั่งดวงจันทร์ มี เครา คิ้ว ตา แสดงถึงอำนาจอิทธิฤทธิ์เลื่องลือในการไล่ผี ปิศาจ ......ทรงมงกุฎหยกแต่ฉลองพระองค์เป็นหญ้า
จากความเชื่อ....ชาวจีนเมื่ออพยพไปตั้งถิ่นฐานใดๆก็มักจะสร้างองค์เทพเจ้า ตั่วเหล่าเอี๊ย เพื่อสักการบูชาบนแผ่นดินสยามก็เช่นกัน มีอยู่หลายแห่งทั่วราชอาณาจักร ทั้งในเมืองหลวงและภูมิภาค (แต่ก็มิได้บันทึกเป็นหลักฐานว่า การเผยแผ่ความศรัทธามาตั้งแต่สมัยอยุธยาหรือในยุครัตนโกสินทร์)
อย่างไรก็ตาม.....ปัจจุบันแม้จะอยู่ในยุคไฮเทค โลกหมุนเข้าสู่ความเจริญในทางวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ ความศรัทธามิได้ลดท่าล่าถอย มูลนิธิธนาคารเพิ่มบุญ ได้สร้างองค์เทพเจ้าตั่วเหล่าเอี๊ย เพื่อเป็นศูนย์รวมให้ชนรุ่นหลังสักการบูชา...และได้ อานิสงส์ในพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งนายศักดิ์ชัย ศักดิ์เดชะมณี ประธานมูลนิธิ มุ่งหวังจะให้เป็นองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยหล่อด้วยโลหะใหญ่ที่สุดในโลก โดยหน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 14 เมตร ต้องใช้ทองเหลืองถึง 40 ตัน ด้วยความมหึมาต้องแบ่งเป็นส่วนๆและหล่อเป็นชิ้นๆเรื่อยมาถึง 18 ครั้ง ทุกครั้งจัดขึ้น ณ สำนักงานมูลนิธิธนาคารเพิ่มบุญ อยู่เลขที่ 100/819 ถนนกาญจนาภิเษก (ช่วงเชื่อมถนนกัลปพฤกษ์) เขตบางแค กทม.
และ...13.39 น. วันนี้ (26 ส.ค.) จะทำพิธีเททองหล่อขาด้านขวา โดยพระครูปลัดสุวัฒนสมาธิคุณ (หลวงปู่ท้าวมหาพรหม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ อันดับต่อไปก็จะทำพิธีเททอง หล่อชายผ้าข้างซ้ายในวันที่ 28 ตุลาคม เป็นครั้งที่ 20 และ ครั้งที่ 21 จะหล่อหน้าอกส่วนล่างอันเป็นชิ้นสุดท้าย 4 พฤศจิกายน
โดย.....ต้องใช้ทองเหลืองอีกประมาณ 2 ตัน จึงเปิดโอกาสให้ผู้ใจบุญได้ร่วมกำลัง ตามศรัทธาและพลังแห่งเมตตา...!!!
นอกจากสร้างองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ มูลนิธิธนาคารเพิ่มบุญยังได้ร่วมกิจกุศลตามประเพณีที่สืบสานมิได้ขาด อาทิ เทศกาลกินเจก็จัดประจำทุกปี โดยมีสวดมนต์จีน และปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ และมหรสพงิ้วตลอด 10 คืน ปีนี้อยู่ช่วงระหว่าง 14 ถึง 23 ตุลาคม
และ......ก่อนจะถึงคาบเวลานั้น มูลนิธิก็จะจัดงานประจำปี ทิ้งกระจาด 5 ถึง 9 กันยายน ซึ่งก็มีงิ้วสมโภชทุกคืนเช่นกัน แล้วแจกทานในวันสุดท้าย หลังจากนั้นอีก 20 วัน (29 กันยายน) ก็จะเริ่มฝังรากตอกเสาเข็ม สร้างฐานขนาดกว้าง 21 เมตร ลึก 18 เมตร สูง 7 เมตร รองรับองค์ตั่วเหล่าเอี๊ย
ซึ่ง......เมื่อเททองครั้งที่ 21 อันเป็นชิ้นสุดท้ายครบบริบูรณ์ ก็จะนำมาเชื่อมต่อให้เป็นองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดเป็น Amazing Thailand ......ที่คนทั้งโลกต้องทึ่งในความมหัศจรรย์...!!!
ตลอดระยะเวลา.....ที่ดำเนินการสร้างองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยมาได้เกิดปาฏิหาริย์หลายครั้ง ไม่ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือความผิดแผกจากปกติให้ถือเป็นอัศจรรย์
ที่ยังเหลือให้เห็นหลักฐานจะดูในยามใดก็ได้คือ.....มีเต่าขนาดใหญ่คลานมาพำนักในศาลเจ้า (มูลนิธิ) แม้ว่าน้ำจะท่วมเข้ามาใกล้ๆรอบๆปริมณฑล ก็ไม่ยอมย่างกรายไปไหน...
อยู่.....เป็นสัตว์คู่บารมีองค์ตั่วเหล่าเอี๊ย เป็นมรดกทางศรัทธาซึ่ง มวลมนุษยชาติเชื้อสายจีนสืบกันมา อย่างยาวนาน...!!!
ก้อง กังฟู