สศช.แถลงภาวะสังคมไตรมาส 2/55 พบคนว่างงาน 334,121 คน หลังพิษน้ำท่วมและปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ห่วงคนไทยด้อยภาษาอังกฤษอันดับ 55 ของโลก เด็กไทย 1 ล้านคนซึมเศร้าเสี่ยงสุขภาพจิต นักดื่มหน้าใหม่เพิ่ม 250,000 คน ชี้สภาพสังคมทำคนไทยอีคิวลดต่ำคุมอารมณ์ไม่ได้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และนางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาธิการ สศช.แถลงสรุปรายงานภาวะสังคมไตรมาส 2 ปี 2555 พบว่าในช่วงดังกล่าวอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 0.85 จากประชากรวัยทำงาน หรือคิดเป็นผู้ว่างงาน 334,121 คน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 0.6
ในขณะที่กำลังคนที่เข้าสู่ตลาดแรงงานมีมากขึ้น มีผู้จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานจำนวน 521,199 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 ทำให้กำลังแรงงานรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ขณะที่ความต้องการจ้างงานของตลาดเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.6 เนื่องจากการลงทุนและผลิตยังไม่สามารถขยายตัวได้เต็มที่อันเนื่องจากภาวะน้ำท่วมในปลายปี 2554 ซึ่งทำให้บางกิจการต้องปิดตัวลง รวมทั้งการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วนรายได้ที่แท้จริงของแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2 ขณะที่ผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6
สำหรับด้านคุณภาพคน ประเทศยังอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบเรื่องภาษาอังกฤษและความหลากหลายของภาษาที่ใช้ในการเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน โดยไทยมีคะแนนการทดสอบการใช้ภาษาอังกฤษหรือโทเฟล (TOEFL) เฉลี่ยอยู่ในลำดับที่ 55 ของโลก และยังต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน ส่วนปัญหาสุขภาพจิต พบว่าเด็กไทยระดับมัธยมถึงอุดมศึกษาประมาณ 1 ล้านคน เสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพจิต มีอาการซึมเศร้าและหงุดหงิดไม่รู้สาเหตุ
ด้านพฤติกรรมและความเป็นอยู่ของคนในสังคม เยาวชนกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 250,000 คน คนไทยอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่เกือบ 15 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุ 14-24 ร้อยละ 14.8 เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 0.2 ความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ของคนไทยลดลง ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ จากการสำรวจอีคิวของเด็กในปี 2554 อยู่ที่ 169.72 ลดลงจากปี 2545 ซึ่งอยู่ที่ 186.42 คาดว่ามาจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม
ด้านปัญหายาเสพติด มีการจับกุมได้เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2554 ร้อยละ 43.9 เนื่องจากเป็นการขับเคลื่อนตามเป้าหมายอาเซียนปลอดยาเสพติด ส่วนการค้ามนุษย์ไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ต้องจับตามองติดต่อกันเป็นปีที่สามแล้ว เนื่องจากแผนป้องกันไม่มีความต่อเนื่องและจริงจัง
เลขาธิการ สศช.ยังกล่าวถึงการเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนว่า จะต้องเน้นบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ดีขึ้น มีการลงทุนด้านบุคลากร อุปกรณ์การแพทย์ และระบบการบริการ ต้องผลิตบุคลากรให้เพียงพอ กระจายอย่างทั่วถึง และอำนวยความสะดวกให้กับคนไข้ชาวต่างชาติที่มารับบริการ รวมไปถึงการพัฒนาระบบข้อมูลและจัดทำข้อมูลแรงงานต่างประเทศ.
จาก สำนักข่าวไทย