กรณีอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิชื่อดังเจ้าของฉายา “เทพเจ้าแห่งภาคอีสาน” เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา ยาวนาน 34 วัน ล่าสุดอาการดีขึ้นมาก แพทย์อนุญาตให้เดินทางกลับวัดบ้านไร่ในวันอังคารที่ 7 ส.ค.นี้

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (6 ส.ค.) นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เข้าตรวจร่างกายเพื่อประเมินผลการรักษาประจำวัน ก่อนเปิดเผยว่า สภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณมีความพร้อมแล้วที่จะเดินทางกลับวัดบ้านไร่ในเช้าวันอังคารที่ 7 ส.ค.นี้ อาการอาพาธทุกอย่างถือว่าหายเป็นปกติแล้ว เมื่อกลับไปอยู่วัดบ้านไร่ ขอเน้นย้ำข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อ ต้องอยู่ห่างในรัศมี 2 เมตร โดยในช่วง 2 สัปดาห์แรก ยังไม่อนุญาตให้หลวงพ่อออกมาพบปะญาติโยมโดยตรง ให้อยู่แต่ในห้องที่มีกระจกกั้นมิดชิดเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวอีกว่า สภาพร่างกายโดยรวมของหลวงพ่อคูณถือว่าเปราะบางมาก เพราะว่าท่านอายุมากปีนี้ก็ 89 ปีแล้ว มีโรคประจำตัวหลายโรค พึ่งหายจากภาวะติดเชื้อรุนแรงได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยรอบนี้หลวงพ่อคูณติดเชื้อแบคทีเรียจากภาวะสำลัก และรักษาจนหายขาดแล้ว แต่ก็มีโอกาสที่จะอาพาธด้วยอาการเดิมนี้อีก โดยมีปัจจัยเรื่องการสำลัก ซึ่งแพทย์พยายามป้องกันทุกวิถีทางแล้ว ถ้าหากเกิดภาวะติดเชื้อลักษณะนี้อีกครั้ง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีแนวโน้มอาการที่รุนแรงกว่าเดิม

“...ขอเรื่องเดียวอย่าเข้าใกล้หลวงพ่อในรัศมี 2 เมตร โดยไม่จำเป็น ต้องกำชับให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่อยู่ในภาวะมีความเสี่ยง ไม่ควรเข้าใกล้หลวงพ่อโดยเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าเด็กจะติดเชื้อหรือไม่ ยิ่งทุกวันนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในตัวเด็กหรือแม้แต่ในผู้ใหญ่ รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น...” นพ.พินิศจัย กล่าวในที่สุด..