เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพนักงานและ รปภ.ของ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ในสวนสัตว์เชียงใหม่ ว่าพบปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เหนือคำบรรยาย เมื่อมีผู้พบเห็น วิญญาณผีสาวแต่งชุดไทยออกมาเดินวนเวียนและได้ยินเสียงเหมือนกับผู้หญิงคุยกัน ในช่วงเวลาค่ำคืนจากบริเวณโกดังเก็บของเก่าซึ่งเป็นสถานที่เก็บเรือไม้โบราณเก่าจำนวน 3 ลำ ที่ทางเชียงใหม่ซูอะควาเรียม ซื้อมาจากชาวบ้านเพื่อนำมาตกแต่งในอุโมงค์น้ำ

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า  นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วย ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ รอง ประธานเชียงใหม่ซู อะควาเรียม กำลังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของเชียงใหม่ ซูอะควาเรียม ช่วยกันยกและขนเรือโบราณที่ขุดจากไม้ตะเตียนยักษ์  3 ลำ ออกจากโกดังเก็บของด้านหลังอาคารอะควาเรียมอย่างทุกลักทะเล โดย เรือโบราณ ทั้ง 3 ลำ และนำออกมาตั้งไว้ที่บริเวณสนามหญ้า ด้านหน้าอาคาร ติดกับศาลพระพรหมแทน โดยมีการ นำผ้าแพร หลากสี  พวงมาลัย รวมดอกไม้ธูปเทียนมาตั้งวางไว้เพื่อบูชา

จากการตรวจสอบว่าว่าเรือไม้ตะเคียนโบราณลำแรก ยาว 8 เมตร กว้าง 1.40 เมตร ลำที่ 2 ยาว 7.3 เมตร กว้าง 1.2 เมตร และลำที่ 3 ยาว 4.20 เมตร กว้าง 60 ซม. สภาพเป็นเรือโบราณเก่าไม่ทราบอายุที่แน่นอน

นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ รองประธานเชียงใหม่ซูอะควาเรียม เปิดเผยว่า  เรือทั้ง 3 ลำ นี้ตนได้ชื้อมาจากชาวบ้านชาวบ้านจังหวัดลำพูน ในราคา 7 หมื่บาท เป็นเรือที่ชาวบ้านกู้ขึ้นมาได้จากใต้แม่น้ำปิง โดยครั้งแรกตั้งใจว่าจะนำไปจัดแต่งภายในอุโมงค์น้ำของเชียงใหม่ซูอะควาเรียมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมเพราะเห็นว่าเป็นของเก่าและสวยงามดี แต่ได้นำมาเก็บไว้ในโกดังดังกล่าวเพื่อตรวจสอบและฆ่าเชื้อก่อน 

กระทั่งมีเสียงเล่าลือจากปากพนักงานและ รปภ.ว่าพบเห็นเรื่องประหลาดโดยบางคนบางคนก็เห็นหญิงแต่งตัวชุดไทยโบราณ เดินวนเวียนแถวโกดัง บางครั้งก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดคุยกันอยู่ในโกดังบ้าง โดยผู้ที่พบเห็นเหตุการประหลาดได้นำไปพูดคุยกันแบบปากต่อปกาและต่างลงความเห็นเชื่อกันว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากเรือโบราณทั้ง 3 ลำ ซึ่งเชื่อว่ามีวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ในเรือทั้งที่เก็บไว้ในโกดังแน่น ซึ่งทั้งหมดเป็นความเชื่อของพนักงาน ตนจึงนำเรื่องราวทั้งหมดไปปรึกษาผู้บริหารสวนสัตว์เชียงใหม่ และได้ทำการเคลื่อนย้ายเรือทั้งหมด มาตั้งประดิษฐานไว้บนสนามหญ้าด้านหน้าอาคารอะควาเรียม เพื่อให้พนักงานและประชาชน ทั่วไปได้สักการะบูชาตามความเชื่อต่อไป และมีการปรึกษากันว่าจะนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญแผ่เมตตาให้กับสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นที่สิงสถิตย์อยู่กับเรือทั้ง 3 ลำต่อไป.