เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณประตูรั้วทางเข้าอาศรมไผ่มรกต ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย พระธรรมสาธิต เวียงกาหลง พร้อมด้วยพระสงฆ์กว่า 70 รูป และผู้ปฎิบัติธรรมทั้งเด็กและคนชรากว่า 300 คน ได้พากันเดินทางมาจาก อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยใช้รถบัสขนาดใหญ่และรถยนต์ส่วนตัว จำนวนหลายสิบคันเพื่อเข้าไปปฎิบัติธรรม และสักการะรูปหลวงพ่อดาบส สุมโน ภายในอาศรมดังกล่าว กลับพบว่าประตูรั้วได้ปิดล็อคด้วยกุญแจอย่างแน่นหนาและเขียนป้ายห้ามผู้บุคคลภายนอกเข้าไปภายในอาศรมไผ่มรกตอย่างเด็ดขาด ทำให้ไม่สามารถเปิดเข้าไปข้างในได้ ต่อมาได้มีนายบุญชม ดอนชัย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 315 หมู่ 5 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ผู้ดูแลที่ทางมูลนิธิท่านพระคุณเจ้าหลวงพ่อดาบส สุมโน จ้างมาดูแลรักษาทรัพย์สินภายในอาศรม ออกมาชี้แจงว่าขอให้ติดต่อผู้มีอำนาจของมูลนิธิเสียก่อนจึงจะสามารถเปิดประตูให้ได้ ทำให้กลุ่มคนที่มาต่างไม่พอใจ ได้พากันยกประตูรั้วออกและพากันนำรถและผู้คนเข้าไปภายในและได้เข้าไปอาศัยอยู่ภายในอาคารต่าง ๆ นอกจากนี้ยังให้พระสงฆ์และผู้มาปฎิบัติธรรม ร่วมกันออกทำความสะอาด ปัดกวาดใบไม้ บริเวณภายในพื้นที่อาศรมจนสะอาด และบางส่วนไปสักการะรูปหลวงพ่อดาบส สุมโน

พระธรรมสาธิต เวียงกาหลวง เล่าว่าอาตมากับพระสงฆ์รวมทั้งผู้ปฎิบัติธรรม ต้องการมาเพื่อสักการะหลวงพ่อดาบส สุมโน และหลังเข้ามาจะปักหลักอยู่ในอาศรมไผ่มรกตต่อไป ในส่วนของความขัดแย้งในสิทธิของพื้นที่ให้ดำเนินการกันไป ที่มาในวันนี้ต้องการเข้ามาปฎิบัติธรรมโดยจะอาศัยอยู่ภายในอาศรมนี้ประมาณ 1 เดือน

ต่อมานายนิรุทร ทัศนาพร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1028 หมู่ 3 ต.บางยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รองประธานมูลนิธิท่านพระคุณเจ้าหลวงพ่อดาบส สุมโน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศุภชัย กันทะสิงห์ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย ว่าได้มีนายไพบูลย์ สัมฤทธิ์ พากลุ่มชาวบ้านจำนวนหลายคน พระสงฆ์จำนวนหลายรูป ได้บุกรุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินที่อาศรมไผ่มรกต เลขที่ 99 หมู่ 21 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จึงขอให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด ซึ่งทางร้อยเวรได้บันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐาน และจะได้เรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนดำเนินการต่อไป

โดยนายนิรุทธ กล่าวว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของคู่กรณี ที่ไม่ยอมรับสิทธิทางกฎหมายในเรื่องการครอบครองพื้นที่ มีการดื้อแพ่ง เคยมีการไกล่เกลี่ย ประชุมกันในระดับจังหวัดและในวันนี้ได้นำกำลังคนมาบุกรุกอาศรม ดังนั้นจึงมาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของมูลนิธิฯ  ซึ่งมูลนิธิฯมีอำนาจการครอบครองพื้นที่ดังกล่าว ตามเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 4 ฉบับ รวมพื้นที่ประมาณ 44 ไร่ 3 งาน 71 ตารางวา ในส่วนของผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ครั้งนี้ เคยเป็นผู้ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวสมัยที่หลวงพ่อดาบส สุมโน ยังคงมีชีวิตอยู่ หลังจากท่านมรณภาพไปแล้วกลุ่มคนเหล่านี้พยายามจะเข้ายึดครอง เป็นของตนเองซึ่งทางมูลนิธิฯที่ได้รับโอนสิทธิ์การครอบครอง มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายยอมไม่ได้ โดยทางมูลนิธิฯจะได้ฟ้องศาลให้ความคุ้มครองฉุกเฉินเพื่อดำเนินการกับผู้บุกรุกต่อไป.