พระพิฆเนศในอาศรมอาจารย์นพ.

หวย...เป็นวิถีของ การเสี่ยงโชค อย่างหนึ่ง ซึ่ง สังคมไทยในยุคปัจจุบันได้ให้ความนิยม อย่างกว้างขวาง...ตั้งแต่รากหญ้าถึงไฮโซ...!!!

กล่าวกันว่า...หวยเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินใหญ่ในราชวงศ์ไต้เชง สมัย พระเจ้าเตากวาง (ราวๆ ปี 2364 ใกล้เคียงกับสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) เรียกว่า “ฮวยหวย” โดยทำเป็นป้ายอักษร 34 ตัว แล้วเลือกมา 1.....ใครแทงถูกเจ้ามือจ่าย 30 ต่อ

O O O

เมื่อได้รับความนิยม คนอพยพจากเมืองจีนไปอยู่ดินแดนอื่นจึงนำไปเผยแพร่ กระทั่งใน ช่วงรัชกาลที่ 3 จึงได้เข้ามาสู่แผ่นดินสยาม เมื่อปี 2378 จึงเริ่มออกหวย (เพื่อล่อให้ คนในยุคนั้น ซึ่งมักเอาเงินฝังดิน ให้พากันขุดขึ้นมาเล่นหวย).... กระแสการเงินจะได้สะพัด


ครั้งนั้นใช้อักษรไทย 36 ตัว โดยกำหนดแต่ละตัวอย่างชัดเจนด้วยสร้อยตามหลังเป็นภาษาจีน เพื่อกันมิให้เกิดปัญหาหากแทงถูก ดั่งเช่น ก.สมหวย ข.ง่วยโป๊ ฃ.เจียมขวย ฯลฯ... เรียกกันว่า “หวยกอขอ”

เจ้ามือหวยต้องประมูลกับหลวง ผู้ที่รับผิดชอบในด้านนี้เป็นนายอากรหวย มีบรรดาศักดิ์เป็น ขุนบานเบิกบุรีรัตน์ คนทั่วๆไปเรียกว่า “ขุนบาน” แม้จะเลิกบรรดาศักดิ์แล้ว...คนก็ยังเรียกเจ้ามือหวยว่าขุนบาน

O O O

ต่อมาการเล่นหวย กอขอ ได้เลิกท่าล่าถอย เมื่อ ครูอาลบาสเตอร์ ชาวอังกฤษ ได้นำเอา “ลอตเตอรี่” อันเป็นการออกรางวัลสลากแบบยุโรปมาเผยแพร่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5ทรง มีพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่ครั้งแรกในประเทศไทย ในวันเฉลิม พระชนมพรรษา ปี 2417

จากนั้นจึงได้แนบสนิทกับสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ด้วยเงินรางวัลเป็นสิ่งล่อใจ ผู้นิยมมักจะเสาะหาตัวเลขจากปัจจัยต่างๆตามศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ สัตว์ ดิน ภูเขา ทะเล ลม ฟ้า ผีสาง เทวดา ฯลฯ......

O O O

ไทยรัฐ...เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งรายงานเกี่ยวกับข่าวสาร มิได้ข้องเกี่ยวแต่อย่างใด แต่พอใกล้ถึงวันออกสลากฯ นักนิยมหวยต่างเปิดค้นหาโชคจากตัวเลขจากหน้ากระดาษเพื่อแสวงหาเลขเด็ด แม้ในช่องการ์ตูนของ “ชัย ราชวัตร” ตามซอกเล็กซอกน้อย ก็ขุดคุ้ยว่าที่ขีดเขียนลงไปนั้น เส้นไหนเป็นตัวเลขบ้าง


...ที่ขาดไม่ได้คือจากกรอบ “ดวงดาวของท่าน” โดย อาจารย์นพ โพธิรักษ์ เพราะเจ้าของคอลัมน์จะใส่ตัวเลขลงไปอย่างชัดเจน และก็เคยมีผู้โชคดีรับทรัพย์กันกระเป๋าตุงมาแล้ว จึงเป็นที่หมายตากันทุกงวดเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว

O O O

อาจารย์นพ โพธิรักษ์ อายุ 85 ปี โหรใหญ่ไทยรัฐ เริ่มเป็นนักพยากรณ์ชีวิตหรือโหร ตั้งแต่ครั้งยังบวชเป็นพระอยู่ที่ วัดปาก-น้ำภาษีเจริญ โดยศึกษาเรียนรู้จากครูบาอาจารย์หลายสำนัก ทั้งที่เป็นพระสงฆ์ ฆราวาส และตำรา จากนั้นจึง ได้ใช้ศาสตร์นี้ โปรดญาติ โยมด้วยความแม่นยำ... จนเป็นที่เลื่อมใส

อาจารย์นพ....ได้ผนวกเอาศาสตร์ต่างๆมาเป็นข้อมูลพื้นฐาน ส่วนใหญ่จะหยิบยกเอาจาก พราหมณ์หรือ ฮินดู ซึ่งเกี่ยวกับเทพเจ้ามา ประยุกต์กับข้อมูลทางดาราศาสตร์ตามเส้นทางโคจรของดวงดาวในจักรวาล

โดยเชื่อว่ามีพลังและอิทธิพลต่อวิถีชีวิตมนุษย์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามทิศทางองศา หรือมุมซึ่งกันและกัน...แล้วจึงนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ในการพยากรณ์

O O O

คติความเชื่อ...ในทางพราหมณ์นั้นมีเทพหลายหลากระดับชั้น ส่วนใหญ่จะยกเอาเทพนพเคราะห์ ซึ่งโยงกับดาวทั้ง 9 ดวงในสุริยจักรวาลโดยเทพแต่ละองค์จะมีอุปนิสัยที่แตกต่างกันไป เข้ากันได้ดีบ้าง หรือเป็นอริกันบ้าง...นั่นก็แล้วแต่

อย่างเช่น...พระเสาร์ใจใหญ่ ใจนักเลง ราหูอุปนิสัยนักเลง เกเร พระพุทธเป็นนักวิชาการ พระศุกร์ รักสวยรักงาม สะโอดสะอง  แถมยังผูกเรื่องให้สนุกสนานอีกว่า...พระอาทิตย์เป็นสามีของพระจันทร์ ซึ่งเป็นลูกสาวพระพฤหัสผู้เป็นครู แต่พระอังคารซึ่งเป็นผู้กว้างขวางมาแอบเป็นชู้กับพระจันทร์ พระอาทิตย์รู้จึงเป็นอริกับอังคาร...ฯลฯ


การพยากรณ์ก็ธรรมดาๆ...โดยยึดถือเอาทิศทางองศาของการโคจรของดวงดาว หากคู่มิตรคู่รักอยู่ไกลก็อาลัย และถ้า คู่อริอยู่ใกล้กันก็บรรลัย...!!!

O O O

และ...ในช่วงปลายปีนี้ (7 ธันวาคม) พระเสาร์ เข้าราศรีตุล ซึ่งเล็งดวงเมือง (รัตนโกสินทร์) โดยสำแดง การโคจรเสริด (วิ่งเร็ว) และพักร (เดินถอยหลัง) ในช่วง ต้นๆปีหน้า (2555) พอปลายๆปีราหู อันเป็นคู่มิตร ก็จะเข้าเสวยในเรือนเดียวกัน...

...หากมองในความเป็นสามัญมิใช่เทพแล้ว คนใจใหญ่อยู่ร่วมกับนักเลงแล้วอะไรจะเกิดขึ้น คือ ถ้าร้ายก็สุดๆ ถ้าดีก็โกยลาภอย่าง มหาศาล (พันๆล้าน)

ด้วยความเป็นห่วงและต้องการให้ได้รู้เท่าทันกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น อาจารย์นพจึงแจกแจงออกมาเป็นตัวหนังสืออย่างละเอียด วางตามร้านสะดวกซื้อและแผงหนังสือทั่วไป ด้วยการหงายสิ่งที่คว่ำ ทำความสว่างในที่มืด ให้กระจ่าง จะได้มีลู่ทางในการหลีกเลี่ยงและแก้ไข

ในขณะเดียวกัน...ก็พยากรณ์โชคเป็นตัวเลขจากพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จเป็นของขวัญปีใหม่ ทั้งฤกษ์บนและล่าง ตลอดปักษ์ ตลอดศก...

O O O


แต่ก็ไม่ลืมเน้นย้ำว่า...สิทธิการิยะอันคำว่า “พยากรณ์” ก็คือการคาดคะเน ย่อมมีถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา สำมะหากับตำแหน่งดวงดาวที่โคจรบนท้องฟ้า ที่มนุษย์ผู้มีปัญญาเอามากำหนดกฎเกณฑ์ เพื่อเป็นเครื่องชี้บอกเวรกรรมและลาภะ...
แม้แต่ นาฬิกาซึ่งมนุษย์ผู้ฉลาดผลิตขึ้นมา ยังเที่ยงตรงกันไม่ได้ทุกเรือน...

เป็นปริศนาธรรมให้ฉุกคิด...ตัวใบ้ ตัวเก็ง ฤาจะตรงเผงเหมือนตัวล็อก...มันก็ต้องเสี่ยงกันเอาเอง...!!!

 

ก้อง กังฟู