อัญเชิญพระทันตธาตุจากภูฏานถึงไทย 2 ธ.ค. ประดิษฐานท้องสนามหลวง เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว…

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคลเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ พระองค์ได้รับสั่งต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ทางภูฏานพร้อมที่จะมอบให้ประเทศไทยได้อัญเชิญพระทันตธาตุของพระมหากัสสปะพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 มาประดิษฐานยังประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสสักการะเป็นขวัญกำลังใจ เนื่องในปีแห่งมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนชาวไทยมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ในภาวะที่ประเทศได้รับภัยพิบัติจากอุทกภัยครั้งใหญ่ไปได้

นพ.สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า พระทันตธาตุองค์นี้ได้เก็บรักษาไว้ในพระบรมมหาราชวังแห่งภูฏาน ยังไม่เคยให้นำออกไปต่างประเทศเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้อัญเชิญจากประเทศภูฏานมาประดิษฐานในประเทศไทย นับเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ราชวงศ์ไทยกับภูฏาน ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องประชาชนชาวไทยจะได้สักการะพระทันตธาตุ โดยตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เดินทางไปอัญเชิญพระทันตธาตุที่ประเทศภูฏาน ซึ่งกำหนดจะเดินทางในวันที่ 1 ธ.ค. และอัญเชิญกลับถึงไทยในวันที่ 2 ธ.ค. เพื่อที่จะทำพิธีสมโภชในวันที่ 3 ธ.ค. พร้อมกับเปิดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ทางภูฏานแจ้งว่า จะให้พระทันตธาตุมาประดิษฐานอยู่ในประเทศไทย เป็นเวลา 3 สัปดาห์ แต่ทางรัฐบาลไทยจะเสนอขอเป็น 3 เดือน ที่จะอัญเชิญไปประดิษฐานตามจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้สักการะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางรัฐบาลภูฏาน เพื่อขอขยายเวลาให้เพิ่มมากขึ้น.