เป่ายันต์...พรหมเปล่งรัศมี ปรับวิถีชีวิต..มีโชค รัก เมตตารุ่งโรจน์
 


เป่ายันต์...พรหมเปล่งรัศมี ปรับวิถีชีวิต..มีโชค รัก เมตตารุ่งโรจน์


เป่ายันต์...พรหมเปล่งรัศมี ปรับวิถีชีวิต..มีโชค รัก เมตตารุ่งโรจน์
ปลุกเสกลูกมหาลอย.

ความรักและเมตตา...นามธรรมที่ใครๆก็ใฝ่หาเพื่อ สั่งสมให้เกิดเป็นรูปธรรม...!!!

ด้วย...ปัจจัยนี้เป็น  พลังที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างสาย สัมพันธ์ของมวลมนุษยชาติ เพื่อให้เกิด สันติสุขอันเป็น...มหาโชคที่มีคุณค่ามากกว่าทรัพย์ศฤงคาร

ทั้งนี้ทั้งนั้น.....ก็ขึ้นอยู่กับว่าวิธีการใดจะได้ในสิ่งนี้ จึงสร้างกุศโลบายเป็นพิธีกรรมต่างๆขึ้นมา ซึ่งมักจะต้องมีคาถาและองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อให้เกิดความขลัง และ เรียกศรัทธาแก่ผู้ที่เข้าร่วม

ส่วนจะมีอะไรมากน้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่ปรมาจารย์จะกำหนด หากยุ่งยากมาก ความนิยมก็จะเสื่อมถอย และ ถ้ามีความเหมาะสมก็จะได้รับการสืบสานจากรุ่นสู่รุ่น

หลวงปู่บัว ศิษย์หลวงปู่ใหญ่เทพอุดร.

หลวงปู่บัว ศิษย์หลวงปู่ใหญ่เทพอุดร.

วัดทัพหลวง  ตำบลตาหลัง อำเภอวังน้ำเย็น สระแก้ว ได้ตระหนักถึงการ กระตุ้นความรักและเมตตา จึงได้จัดพิธีกรรม เป่ายันต์พรหมเปล่งรัศมี ขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่ง หลวงปู่บัว  แก้วคง ประธานที่ปรึกษา เจ้าอาวาส วัดทัพหลวง เป็นเจ้าพิธี โดย เริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนเต็มคาบเวลา 9 ชั่วโมง...จึงจะยุติ...!!!

หลวงปู่บัว แก้วคง หรือ ฉายา “ธัมมสัตตโน” อายุ 85 ปี 32 พรรษา เป็นชาวจังหวัดชัยภูมิโดยกำเนิด เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ที่วัดทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จันทบุรี ก่อนอุปสมบทได้ใช้ชีวิตฆราวาสมากว่าครึ่งศตวรรษ พอสู่เพศบรรพชิตจึงเคร่งครัดในทางปฏิบัติ

แรกเริ่ม...ได้ภาวนากับหลวงปู่คำพันธุ์ในการเพ่งกสิณน้ำ อันเป็นเอกคุตตารมย์องค์หนึ่งแห่งฌานที่สร้างสมาธิโดยอัตโนมัติ เมื่อลดระดับจิตลงมาสู่อุปจรได้แล้ว ด้วยนิสัยรักสงบ รักสันโดษ จึงออกธุดงค์ไปป่าลึก โดยใช้บารมีคุณพระรัตนตรัยและเมตตาธิคุณ...

...ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย หรือ เจตภูต ผีป่าที่มองไม่เห็นตัวตน...ก็รอดพ้นภยันตภัย ได้ทั้งปวง

รูปหล่อขนาดบูชา.

รูปหล่อขนาดบูชา.

ได้ธุดงค์....ปักกลดอยู่บนเขาตะกรุป 3 ปี อยู่ในถ้ำมะเค็ง 2 ปี ถ้ำแรด 5 ปี ได้ธุดงค์ไปภูเขียว พบกับ หลวงปู่คำผา อริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา ได้สอนให้เข้าถึงสมาบัติ ซึ่งเป็นภูมิธรรมที่ละเอียด (ฌานชั้นนี้เชื่อว่าทำให้รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้)

ครั้งหนึ่ง...แสงโอภาสวูบเข้ามาในสมาธิ แล้วพลันบังเกิดเป็นรูปพระธุดงค์ลึกลับใส่จีวรสีกรักร่างงาม ผิวพรรณผ่องใส ใบหน้าเหมือนพระ หรือเณร ยากที่จะตอบเพราะดูไม่แก่เลย  แต่ถ้าจะว่าเป็นเณรที่บวชใหม่ แต่ทำไมเส้นผมจึงหงอกโพลนไปทั้งศีรษะ

...ในวาระนั้น พระธุดงค์ได้มายืนตรงหน้า แล้วส่งกระแสธรรมเข้าสู่ดวงจิตของหลวงปู่บัว ซึ่งไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดใดๆได้ โดยที่เรารู้ในธรรมนั้นมันแล่นไปเต็มหัวใจ

...การที่ได้รับจตุตถฌานน้ันเป็นภาวะจิต เป็นตัวรู้ ไม่มีอุปาทานใดๆเข้ามาเกี่ยวเนื่องสงัดจากนิวรณ์โดยสิ้นเชิง ภาวะจิตลดระดับลงสู่อุปจารสมาธิ แล้วพิจารณาธรรมจากจิตสู่จิต มันสว่างไสวปีติอิ่มเอิบไปหมด มันซึมซาบลึกอย่างไม่มีวันถอยกลับ...มหัศจรรย์ซึ่งถือว่าเป็น ปาฏิหาริย์แห่งการปฏิบัติโดยแท้

แม้ยามนั้น...หลวงปู่เทพอุดรจะเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแล้วก็ตาม ด้วยที่ว่าหลวงปู่บัวอยู่แต่บ้านนอกและตามป่าเขาจึงไม่ทันต่อลุค จึงไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะไม่ได้บอกชื่อเสียงเรียงนาม...เพียงแต่ยกให้พระธุดงค์ลึกลับนั้นเป็นครู

เหรียญรุ่นแรก.

เหรียญรุ่นแรก.

กระทั่ง...บังเอิญเห็นรูปที่ชาวบ้านกราบไหว้บูชากัน ซึ่งจำได้ติดตาว่า นั่นคือพระธุดงค์ลึกลับที่ถ่ายทอดธรรมเข้าสู่ดวงจิต จึงได้รู้ว่า เป็นผู้ที่ให้ความรัก เมตตา กรุณา และ เกื้อกูล ศิษย์ทั้งหลายมีอิทธิฤทธิ์อภิญญา แกร่งกล้าในแผ่นดิน ทั้งสิ้น ครูท่านนี้คือ...หลวงปู่เทพอุดร...!!!

จากนั้น...หลวงปู่บัวจึงได้ปฏิบัติตามจิตที่ได้รับรู้  เอากายกับใจเป็นสมถกรรมฐาน เอาพุทโธเป็นสรณะ  วิปัสสนาเป็นมรรค พิจารณาสภาวธรรม เมื่อเต็มดวงจิตแล้วไม่มีตกใจ ไม่มีสะดุ้งด้วยเรื่องใดๆ  ทั้งดีใจเสียใจ ไม่มีขึ้นมีลง ไม่ไหลตามอารมณ์ของปุถุชนไปตามเรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส...!!

เมื่อ สำเร็จในศาสตร์ปฏิบัติเข้าสู่การเป็นศิษย์หลวงปู่เทพอุดรอย่างเต็มขั้น หลวงปู่บัวจึงออกมาจำพรรษาอยู่ที่ีวัดหนองคอก ฉะเชิงเทรา ต่อมาในปี 2546 จึงติดนิมนต์มาอยู่ที่ วัดทัพหลวง

ด้วยจิตที่เที่ยงแท้ในสมาธิปฏิบัติ สามารถรับคลื่นจิตจากหลวงปู่เทพอุดร หรือหลวงปู่ใหญ่ได้ หลวงปู่บัวก็มิได้สำแดงตน และ ไม่ได้สนใจในเรื่องฤทธิเดช อะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดเพียง ทางผ่านของสมาธิเป็นเครื่องอนุเคราะห์ชาวโลก ทั่วไปเท่านั้น

แต่เหล่าศิษยานุศิษย์ก็ยังไม่พอเพียง  ร้องขอให้หลวงปู่สร้างมงคลวัตถุ ช่วงแรกๆก็บ่ายเบี่ยงด้วยเกรงจะเป็นการ อวดอุตริจริต ซึ่งเป็นโลกวัชชะ แต่ด้วย แรงแห่งเมตตา จึงได้สร้างสมเด็จว่าบัวผุด เหรียญราหู ท้าวเวสสุวรรณ พระพรหม ตะกรุดนารายณ์สะท้อนแสง ฯลฯ

ศิษยานุศิษย์เข้าร่วมในพิธีกสิณน้ำเปิดโลก.

ศิษยานุศิษย์เข้าร่วมในพิธีกสิณน้ำเปิดโลก.

และ...รูปหล่อขนาดบูชา ลูกมหาลอย จ่ายแจกไปตามความเหมาะสม หากได้รับปัจจัยตอบแทนด้วยศรัทธา ก็ มิได้เก็บเข้าพกเข้าห่อ มอบให้วัดเป็นทุนสร้างศาสนสถาน ตามความจำเป็น

ล่วงเข้าสู่คาบเวลาของ สารทไทยกับกินเจ ซึ่งถือว่ากายและจิตของมนุษย์สะอาด  หลวงปู่บัว   แก้วคงจึงได้เลือกเอาวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 แผ่อานิสงส์ เป่ายันต์ “พรหมเปล่งรัศมี” ซึ่งศาสตร์ชั้นสูงเป็นสุดยอดที่มีความขลังและอำนาจสูงส่งในทาง เสริมบารมี สิริมงคล สง่าราศี มีเมตตามหานิยม อันเป็นโชคลาภเจริญรุ่งเรือง

ซึ่ง ผู้ที่เข้าร่วมพิธีกรรมจะได้รับมงคลพลัง ในมหาเสน่ห์ ทำมาค้าขายดี ชีวิตที่เคยอับเฉาจะไม่แห้งเหี่ยวต่อไปด้วยมีผู้อุปถัมภ์ค้ำชู และบังเกิดสิ่งที่ดีๆ ส่วนจะเข้มขลังก็ขึ้นอยู่กับศรัทธา...แต่ก็อย่างมงาย...!!

 

ก้อง กังฟู



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.