วธ.ลุยแล้วจัดเรตติ้งสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท-พัฒนาคู่มือเรตติ้งให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับสังคมไทย แถมบทลงโทษร้านค้าแหกกฎ...
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการสื่อปลอดภัย และสร้างสรรค์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2554 ที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติ จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 และให้มีการดำเนินการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อสิ่งพิมพ์ (เรตติ้ง) ต่อไป หลังจากที่ได้ผ่านการจัดทำประชาพิจารณ์ร่วมกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียแล้ว พร้อมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อทำหน้าที่พิจารณา การดำเนินการจัดเรตติ้งสื่อสิ่งพิมพ์ และพัฒนาคู่มือเรตติ้งให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสังคมไทย
รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ในระหว่างนี้ วธ. จะส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังสมาคมมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ผู้จำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วประเทศ มีการจัดโซนนิ่งสิ่งพิมพ์ทุกประเภทให้เหมาะสมก่อน โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน และหลังจากที่มีการกำหนดเรตติ้งของสื่อสิ่งพิมพ์เรียบร้อยแล้ว จะมีการกำหนดบทลงโทษไว้ด้วย ดังนั้นร้านหนังสือทุกร้านจะต้องมีการจัดโซนนิ่งให้ถูกต้องตามที่ วธ. กำหนด โดยเฉพาะจะต้องให้มีเนื้อหาเหมาะสมกับช่วงอายุของแต่ละวัย โดยส่วนตัวเห็นว่า หนังสือที่มีเนื้อหา หรือ ภาพที่วาบหวิวควรเป็นหนังสือสำหรับผู้ใหญ่ และควรจัดวางไว้ในโซนที่ผู้ใหญ่สามารถเห็นได้ว่าเด็กสามารถเข้าไปดูได้หรือไม่ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ นอกจากนี้ จะต้องมีการจัดเรตสำหรับสื่อที่ต้องห้ามด้วย อย่างไรก็ตามตนคิดว่าการจัดเรตติ้งสิ่งพิมพ์เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เช่นเดียวกับ สื่อโทรทัศน์ และภาพยนตร์ เพราะฉะนั้น รัฐบาลชุดใหม่ ควรให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันผู้ที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมคนใหม่ ก็ควรจะเร่งรัดและผลักดันเรื่องนี้ให้บรรลุผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วด้วย
ด้าน น.ส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดเรตติ้งสิ่งพิมพ์เป็นสิ่งที่สังคมต้องการเพื่อกระจายความรับผิดชอบ ทั้งของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ซึ่งการจัดการจะคล้ายกับสื่ออื่น คือ พิจารณาประเด็นด้านเพศ ภาษา ความรุนแรง ที่ผ่านมาได้ทำประชาพิจารณ์หลายครั้งแล้ว และได้ผลตอบรับสนับสนับสนุนทั้งจาก สภาการหนังสือพิมพ์ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ทุกฝ่ายไม่ต้องการให้มีสื่อที่ไม่เหมาะสมปะปนอยู่ เพราะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน.
|
|
|