ผวจ.สตูล นำเจ้าหน้าที่ตรวจหลุมศพ19หลุม บนเกาะแรดใหญ่ หลังออกหมายจับ‘โกโต้ง’อดีตนายก อบจ.ในคดีค้ามนุษย์ ญาตินำชี้ยืนยัน เป็นฮวงซุ้ยของตระกูลที่มีการฝังศพมากว่า50ปี สั่ง นอภ.ตรวจสอบใบมรณบัตรว่าตรงกันจริงหรือไม่...
เมื่อวันที่ 12 พ.ค.58 ผู้สื่อรายงานข่าวคืบหน้าการปราบปรามขบวนการค้าโรฮิงญา หรือ โรฮีนจาในพื้นที่ จ.สตูล ที่มีการออกหมายจับนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง หรือเสี่ยโต้ง อดีต นายก อบจ.สตูล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบหลุมฝังศพ จำนวน 19 หลุม บนเกาะปอ-ออ หรือเกาะแรดใหญ่ ที่อยู่กลางทะเลอันดามัน ในเขต ม.2 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล ที่สงสัยว่าอาจเป็นสุสานที่ใช้ฝังศพชาวโรฮีนจาที่เสียชีวิต
ต่อมา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.สตูล พร้อมด้วยนายรัฐพล ณ อุบล นายอำเภอเมืองสตูล พ.ต.อ.ชัยรัตน์ กาญจนเนตร ผกก.สภ.เมืองสตูล เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้นำนางซิ่ม อังโชติพันธุ์ อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/57 ถนนศุลกานุกูล อ.เมืองสตูล ซึ่งเป็นน้องสาวของนายบรรจง อังโชติพันธุ์ หรือกำนันจง บิดาของนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ และนางงามจิต บุญยนิต อายุ 55 ปี เป็นพี่สาวของนายปัจจุบัน เดินทางไปยังเกาะปอ-ออ หรือเกาะแรดใหญ่ เพื่อไปตรวจสอบหลุมฝังศพ ทั้ง 19 หลุม
พบเป็นหลุมฝังศพของผู้ใหญ่ แยกเป็นหญิง 7 คน ชาย 8 คน ส่วนอีกจำนวน 4 หลุม เป็นศพเด็กไม่ทราบเพศโดยศพทั้งหมดฝังอยู่บริเวณรอบๆ ฮวงซุ้ย ซึ่งมีการประกอบพิธีแบบคนจีน และร่องรอยของการตกแต่งใหม่ เนื่องจากเพิ่งผ่านช่วงเช้งเม้งมา
พร้อมกันนี้ ยังมีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์การครอบครองที่ดินบนเกาะปอ-ออ โดยญาติๆ ของนายปัจจุบันได้นำเอกสารสิทธิ์ เป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 43140 เล่มที่ 432 หน้า 40 ซึ่งที่ดินดังกล่าวระบุชื่อนายเล้ง อังโชติพันธุ์ อยู่บ้านเลขที่ 32 ถนนประชาอุทิศ ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล และนายอิ่วเข่ง อังโชติพันธุ์ บ้านอยู่ถนนศุลกานุกูล อ.เมืองสตูล เป็นผู้จัดการมรดกที่ดินเนื้อที่ทั้งหมด 107 ไร่
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.สตูล กล่าวว่า ในส่วนของดินบนเกาะปอ-ออ หรือเกาะแรดใหญ่ มีทั้งหมด 300 ไร่ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ตระกูลอังโชติพันธุ์ ตามเอกสารสิทธิ์ โฉนดที่ดินมี 107 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นที่ของคนอื่น โดยที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ตระกูลอังโชติพันธุ์ ซึ่งเป็นเครือญาติของนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ นั้นมีทั้งหมด 11 แปลง ส่วนหลุมฝังศพที่พบ ญาติๆ ยืนยันว่า เป็นบรรพบุรุษของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทางนายอำเภอเมืองสตูลจะมีการตรวจสอบเอกสารใบมรณบัตรอีกทีว่าตรงกันหรือไม่ แต่ถ้าไม่มีใบมรณบัตร ก็จะต้องสอบปากคำญาติหรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่
