ผบช.ภ.4 กางโต๊ะแถลงข่าวจับยาบ้า 1,516,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เครือข่าย พ.ท.ยี่เซ นักค้ายาชื่อดัง ขณะหนุ่มม้งผู้ต้องหานั่งน้ำตาริน ซัดเพื่อนหนีเอาตัวรอด ตร.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ค. 58 ที่หน้า ศปก.ตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พ.อ.ธานินทร์ สนิทชน รอง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พล.ร.ต.อารักษ์ แก้วเอี่ยม ผบ.นรข. พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ตม.4 ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นายคึ หรือ นายวันชัย ชนะวงศ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 ม.13 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ซึ่งถูกจับพร้อมยาบ้า จำนวน 758 มัด รวม 1,516,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถกระบะสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 1 ฒณ 4899 กรุงเทพมหานคร 1 คัน

พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 เปิดเผยถึงการจับกุมยาบ้าครั้งนี้ว่า ตำรวจภูธรภาค 4 โดยเจ้าหน้าที่ ปส.ภ.จว.หนองคาย รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการค้ายาเพสติด ลักลอบขนยาบ้าข้ามแม่น้ำโขงจากฝั่งลาวมายังฝั่งไทย ส่งให้กับเครือข่ายที่ริมถนนข้างร้านอาหารเลอของ ในพื้นที่ ม.2 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย จึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ นรข.และทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี วางแผนจับกุม

โดยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 58 ที่ผ่านมา พบกลุ่มชายฉกรรจ์ขับเรือหางยาวมาจอดที่บริเวณอู่ต่อเรือ ริมแม่น้ำโขง ในพื้นที่ ม.2 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ส่วนบนถนนริมแม่น้ำโขง ก็มีรถกระบะสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 1 ฒณ 4899 กรุงเทพมหานคร มีนายคึ เป็นคนขับ จอดติดเครื่องอยู่ เจ้าหน้าที่พบว่ามีการขนย้ายกระสอบปุ๋ยจากในเรือมาที่รถกระบะคันดังกล่าว จึงรีบแสดงตัวเข้าจับกุม ทำให้กลุ่มคนที่กำลังขนย้ายกระสอบหนีลงเรือ บางคนวิ่งหนี จึงจับกุมได้เพียงนายคึ เพียงคนเดียว พร้อมกระสอบปุ๋ย 8 ใบ ซึ่งในกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวน 758 มัด รวม 1,516,000 เม็ด

ทั้งนี้ จากการสืบสวนขยายผล ขณะนี้ทราบตัวผู้ร่วมขบวนการหมดแล้ว ที่หลบหนีส่วนใหญ่เป็นชาวลาวและเพื่อนสนิทของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ส่วนยาบ้าทั้งหมดที่ยึดได้เป็นของ พ.ท.ยี่เซ ซึ่งมีสัญลักษณ์ 999 ชัดเจน มูลค่าการซื้อขายในประเทศไทย เฉลี่ยเม็ดละ 200 บาท มูลค่ายาบ้าที่ยึดได้ครั้งนี้ประมาณ 300 กว่าล้านบาท จุดหมายปลายทางของยาบ้าอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่า รับจ้างครั้งนี้ในราคา 200,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับค่าจ้าง

ขณะที่ ผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมถึงเส้นทางในการเดินทางจากจังหวัดเชียงราย มารับยาบ้าในพื้นที่จังหวัดหนองคายครั้งนี้ว่า เอเย่นต์หรือคนที่ว่าจ้าง ซึ่งเป็นชาวม้ง จะกำหนดเส้นทางให้ โดยการประสานงานกันทางโทรศัพท์ โดยเดินทางจากจังหวัดเชียงราย ตามเส้นทาง ชาติตระการ นครไทย เข็กน้อย ภูเรือ วังสะพุง นากลาง หนองบัวลำภู อุดรธานี และหนองคาย ส่วนเส้นทางในการขนยาบ้าไปที่กรุงเทพฯ นั้น ทางเอเย่นต์จะมีรถตรวจวิ่งนำหน้าให้ ตามเส้นทาง หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู วังสะพุง ภูเรือ นครไทย เพชรบูรณ์ สระบุรี วังน้อย โดยปลายทางอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อทำงานเสร็จถึงจะได้รับเงินค่าจ้างจำนวนดังกล่าว แต่ช่วงที่ขับรถมารอรับยาบ้า ก็ถูกตำรวจจับกุมได้