วัยรุ่นขี่ จยย.ประกบยิงใส่รถอริ ดับ 1 เจ็บ 4
 


วัยรุ่นขี่ จยย.ประกบยิงใส่รถอริ ดับ 1 เจ็บ 4


วัยรุ่นขี่ จยย.ประกบยิงใส่รถอริ ดับ 1 เจ็บ 4

วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งออกเที่ยวผับย่านนครปฐม ขณะขับรถกลับบ้าน ถูกวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ประกบยิงฝั่งคนขับ ทำให้คนขับเสียชีวิต ชี้อาจเป็นปมที่เคยทะเลาะกับการ์ดของผับแห่งหนึ่ง และได้มีเรื่องท้าทายกันเกิดขึ้น

เมื่อเวลา 03.15 น. วันที่ 10 พ.ค. 58 ร.ต.ท.สุรศักดิ์ ปิ่นทอง ร้อยเวร สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนถวิลพัฒนา ม.8 ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม จึงรายงานให้ พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จ.นครปฐม พร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน 3 กค 2821 กรุงเทพมหานคร พุ่งตกลงไปไหล่ถนนชนกับเสาไฟ สภาพรถพัง กระจกข้างด้านขวาแตก ฝั่งด้านคนขับและด้านผู้โดยสาร เป็นกระสุนหลายรู ห่างจากรถ 2 เมตร พบศพนายปิยะศักดิ์ เตียนสำรวย อายุ 28 ปี พ่อค้าขายกระเป๋าแฟชั่นที่ตลาดซอย 2 เขตเทศบาลนครนครปฐม สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น เสียชีวิตอยู่ข้างรถ มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณโหนกแก้มด้านขวา ต้นแขนขวาทะลุเข้าชายโครงขวา 2 นัด ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกเกลื่อน 6 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน ถูกนำส่ง รพ.ศูนย์นครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อ 1. ส.ต.ต.สหชาติ ถึงสุข อายุ 21 ปี สังกัด ตำรวจสันติบาล กทม. ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ หางคิ้ว 1 นัด หน้าท้อง 1 นัด 2. น.ส.ชลธิชา พลภักดิ์ อายุ 21 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนยิงเฉี่ยวเข้าที่ข้อศอกขวา 3. นายอิสระ เตียนสำรวย อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้างทำหมูชำแหละ ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด และ 4. นายธนพงษ์ ทองสง่า อายุ 16 ปี อาชีพรับจ้างทำหมู ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนเข้าที่ไหล่ขวา แพทย์ทำการช่วยเหลือ

จากการสอบถาม นายเดช (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ นายสิทธิ์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ นั่งรถคันเดียวกันกับผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดได้นั่งรถคันเดียวกัน รวม 7 คน ชวนกันไปเที่ยวร้านเอกเขนก เป็นสถานบันเทิงในเขตเทศบาลนครนครปฐม จนกระทั่งเวลา 01.00 น. ร้านปิด จึงได้ชวนกันมานั่งดื่มกินกันต่อที่ร้าน แม็กซีด ผับ ซึ่งเลิก 02.00 น. เมื่อร้านปิดจึงชวนกันไปทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางใกล้กับศาลเจ้าม้าดำ ซึ่งเป็นทางผ่านจะกลับบ้าน ในระหว่างที่นั่งทานก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้น ตนทั้งสองได้ขอเดินไปซื้อของในร้านเซเว่นฯ ที่อยู่ใกล้กับร้านก๋วยเตี๋ยว ได้พบกับกลุ่มวัยรุ่นอีกกว่า 10 คน ยืนจับกลุ่มกันอยู่หน้าร้าน แต่ก็ไม่มีอะไรกัน เมื่อซื้อของเสร็จเดินออกมาหน้าร้าน นายปิยะศักดิ์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งทานเสร็จก็ขับพาพวกที่นั่งทานด้วยออกมารับพวกตนทั้ง 2 คนที่หน้าร้าน ขึ้นรถก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเพื่อกลับบ้าน เห็นวัยรุ่น 2 คน ขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้า ซูมเมอร์ เอ็กซ์ สีส้ม ล้อทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขี่วนเวียนที่หน้าร้านเซเว่นฯ หลายรอบ แต่ก็ไม่มีใครสนใจเพราะไม่เคยมีเรื่องกับใคร เมื่อรถขับออกไปได้เพียง 3 กม. ชายวัยรุ่นที่พบขี่วนเวียนที่ร้านเซเว่นฯ ก็ขี่เข้าประกบด้านคนขับแล้วชักปืนออกมารัวใส่ ถูกนายปิยะศักดิ์ คาพวงมาลัยรถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟตกลงข้างทางจอดแน่นิ่ง ส่วนรถ จักรยานยนต์มือปืนเร่งเครื่องหลบหนีไป พวกตนที่บาดเจ็บกันเล็กน้อยลงจากรถเอาร่างของนายปิยะศักดิ์ ที่ฟุบคาพวงมาลัยจะนำส่ง รพ. แต่นายปิยะศักดิ์เสียชีวิตแล้ว

จากนั้นตำรวจได้บันทึกปากคำไว้ พร้อมกับแจ้งให้ น.ส.วันทนา พลภักดิ์ อายุ 28 ปี อาจารย์สาธิตราชภัฏนครปฐม ทราบเรื่องเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นนายปิยะศักดิ์ สามีถึงกับปล่อยโฮลั่น ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบสวนเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุ เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีเรื่องกับนายปิยะศักดิ์ มาก่อน โดย น.ส.วันทนา ให้การกับตำรวจว่า สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน มักจะมีเรื่องบ่อยครั้งกับวัยรุ่น เท่าที่ตนเองรู้ เมื่อปี 2557 สามีเคยเข้าไปเที่ยวในผับแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม และเกิดมีเรื่องกับการ์ดในผับ จนถูกทำร้ายและมีการเอาปืนจี้หัว จนมีการแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปเจอกับกลุ่มการ์ดคุมผับอีก ที่ด้านหลังโรงแรมเวล และเกิดมีการท้าทายกันขึ้น แต่ก็ไม่มีเรื่องอะไร เพราะมีคนแจ้งบอกตำรวจมาที่เกิดเหตุก่อนจึงเลิกรากันไป ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องเงินจำนวน 5 หมื่นบาท ที่มีคนมายืมไปแล้วไม่ใช้ จนตามตัวเจอแจ้งความกับตำรวจไว้ และมีการตกลงกันว่าจะชดใช้ให้เดือนละ 5 พัน แต่ก็ไม่มีการใช้จนกระทั่งไปเจอกันอีกจึงมีปากเสียงกันรุนแรงถึงขั้นชกต่อยกัน แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา ตนเองคาดว่าเรื่องทะเลาะกับการ์ดคุมผับน่าจะเป็นประเด็นใหญ่ เพราะมีการแจ้งความดำเนินคดีกัน จะเจอกันบ่อยเพราะสามีชอบเที่ยวผับ น่าจะเป็นสาเหตุนี้ ตำรวจจึงบันทึกปากคำไว้



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.