กลุ่มมือปืนบุกบ้าน จ่อยิง “เจ๊เขียว” สาวใหญ่นายหน้าค้าที่ดิน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิต หน้าบ้านพัก ตร.เผยตั้งปมสังหารเรื่องล้างหนี้ หลังประสบปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก ทำที่ดินลูกค้าหลุดจำนอง
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 25 เม.ย. 58 มีรายงานว่า พ.ต.ท.สุรินทร์ ชูศรี พนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.ลานสกา ว่ามีคนถูกยิงมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดชัย โชติสุทธิ์ ผกก. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมใจ โพธิ์ศรีทอง สวป. พ.ต.ท.ธิคำพร ห่อหุ้ม สว.สส. รุดไปตรวจสอบ
ที่โรงพยาบาลดังกล่าว พบศพ นางวรรณพร หรือเขียว ญาติพัฒน์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .357 เข้าที่ราวนมขวา 2 นัด กระสุนฝังใน สะเอวด้านหน้าขวา 1 นัด กระสุนทะลุด้านหลัง บริเวณหน้าท้องถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด กระสุนทะลุหลัง 1 นัด ฝังใน 1 นัด ไหล่ซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นางวรรณพร กำลังยืนพูดโทรศัพท์อยู่หน้าบ้านพัก ได้มีคนร้ายใช้รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีขาว ไม่ทราบทะเบียน มาจอดริมถนนหน้าบ้าน จากนั้นคนร้ายเป็นชาย 2 คน ลงมาจากรถ แล้วชักปืนพกสั้นออกมาคนละกระบอก กระหน่ำยิงนางวรรณพรจนล้มทรุดจมเลือด ก่อนคนร้ายทั้งสอง จะพากันเดินกลับขึ้นรถ ซึ่งมีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ญาติและเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้นำนางวรรณพรส่งโรงพยาบาล แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.ป.สภ.ลานสกา เผยว่า ตำรวจพุ่งปมการสังหารนางวรรณพรไปที่ การล้างแค้นเรื่องการเงินของคู่กรณี เนื่องจากนางวรรณพร หรือเจ๊เขียว ถือเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักกันดีในอำเภอลานสกาและในอำเภอใกล้เคียง เนื่องจากประกอบอาชีพนายหน้าค้าที่ดินมาเป็นเวลานาน แต่ในช่วงหลังได้ประสบปัญหาทางการเงิน จึงนำหลักทรัพย์ที่เป็นโฉนดที่ดิน ที่มีลูกค้าฝากขาย และไปจำนอง จนหลักทรัพย์ดังกล่าวหลุดจำนองไปหลายราย รวมทั้งกู้ยืมเงินของนายทุนมาหมุน ซึ่งแนวทางสืบสวนทราบว่าในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา นางวรรณพรมีหนี้สินจำนวนมาก ถูกผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ลานสกาหลายราย นอกจากนี้ คู่กรณีบางคนได้ถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิต อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
