ศาลอาญาลงทัณฑ์สั่งจำคุก “กำนันเซี๊ยะ” พร้อมภรรยาคนละ 10 ปี 16 เดือน คดีรุกที่สาธารณะกว่า 50 ไร่ ใน ต.บ้านด่าน และ ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี หลังฟังคำพิพากษาญาติรีบหอบเงินสดยื่นขอประกันคนละ 1.1 ล้านบาท ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติออกหมายปล่อยตัวรอดนอนคุก เตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อไป
ศาลสั่งจำคุกกำนันคนดังเมืองกาญจนบุรีและภรรยา เปิดเผยขึ้นที่ศาลอาญาวันที่ 24 มี.ค. ศาลอาญามีคำพิพากษาคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซียะ และนางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ฐานร่วมยึดถือครอบครองที่ดิน เผาป่า แผ้วถางป่า ในที่ดินสาธารณประโยชน์ ตาม ป.ที่ดินมาตรา 9 และมาตรา 108 ทวิ ซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ เหตุเกิดในพื้นที่ ต.บ้านด่าน และ ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เนื้อที่กว่า 50 ไร่ และขอให้ศาลนับโทษต่อกับคดีอื่นอีก 2 คดี จำเลยให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคล เดียวกันกับที่เคยถูกศาลลงโทษมาแล้ว 2 คดี แต่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลสูง ก่อนนี้กำนันเซียะไม่ยอมมาฟังคำพิพากษา 2 นัด และยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเพื่อตัดฟ้องแต่ศาลไม่รับ
ศาลอ่านคำพิพากษาว่า แม้คดีนี้เป็นการฟ้องตามประมวลกฎหมายที่ดิน แต่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา สอบสวน และสรุปสำนวนส่งอัยการตามกฎหมาย และที่ดินอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินตาม ป.ที่ดิน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่า จำเลยเข้ายึดถือที่ดินสาธารณประโยชน์ตามความเป็นจริง โดยใช้ชื่อ เขมประชา อันเป็นชื่อจำเลยทั้ง 2 ในชื่อ ที่ดินที่เข้ายึดถือ และแสดงออกต่อบุคคลทั่วไปว่าเป็นเจ้าของยึดถือครอบครองในที่ดินพิพาท นอกจากนี้โจทก์มีพยานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับหัวหน้าส่วนมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางอากาศ แสดงถึงพื้นที่หวงห้ามฟังได้ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปใช้ตั้งแต่ ปี 2496 ถ่ายภาพอีกครั้งปี 2505 และที่ดินที่จำเลย ครอบครองอยู่ในเขตที่ดินสาธารณประโยชน์จึงฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดตามระยะเวลาที่ยึดครองที่ดิน รวมระยะเวลาต่างๆกันรวม 6 กระทง ลงโทษจำคุกคนละ 17 ปี คำให้การนับว่ามีประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงรับโทษจำคุกคนละ 10 ปี 16 เดือน และให้นับโทษต่อจากคดีที่ 3138/48 กับคดี 2930/57