ฝนถล่มกทม.จม อสมท.สูงเกือบ1ม. ห้างท็อปส์น้ำทะลัก
 


ฝนถล่มกทม.จม อสมท.สูงเกือบ1ม. ห้างท็อปส์น้ำทะลัก


ฝนถล่มกทม.จม อสมท.สูงเกือบ1ม. ห้างท็อปส์น้ำทะลัก

ฝนหลงฤดูถล่มกรุงเทพฯทำรถติดหนึบการจราจรเป็นอัมพาต น้ำผุดท่อระบายดันพื้นท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นใต้ดินห้างโรบินสัน สุขุมวิท ทะลักท่วมชั้นวางสินค้า ต้องสั่งปิดให้บริการ ส่วนถนนหลายสายมีน้ำท่วมขัง ซอยแยก อสมท หนักสุด น้ำสูงถึง 1 เมตร รถจมน้ำดับสนิท ด้านสำนักการระบายน้ำเผยปริมาณฝนตกเหมือนฟ้ารั่ว วัดสูงสุดเขตสาทร 73.5 มิลลิเมตร ขณะที่เมืองพัทยาอ่วมไม่แพ้กัน ฝนตกหนักน้ำท่วมถนนสุขุมวิททั้ง 2 ฝั่ง รถจอดเสียหลายคัน ส่วนเมืองพระปฐมเจดีย์ฝนถล่มครึ่งชั่วโมงน้ำท่วมไปทั่วเมือง ด้านอุตุฯเตือนช่วงนี้ภาคเหนือ อีสาน กลาง ระวังฝนตกหนัก และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่

ฝนถล่มกรุงเทพฯ น้ำท่วมถนนหลายสาย การจราจรเป็นอัมพาตทั่วกรุง โดยผู้สื่อข่าวรายงานช่วงสายวันที่ 24 มี.ค. เกิดฝนตกหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ ทำให้น้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมถนน การจราจรติดขัด อย่างหนัก เช่น ถนนสุขุมวิท โดยที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา พบชั้นใต้ดินที่เป็นห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต (สาขาโรบินสันสุขุมวิท) เกิดน้ำดันขึ้นมาจากท่อระบายน้ำพุ่งขึ้นท่วมขังสูงราว 30 ซม. ทำให้ชั้นวางสินค้าได้รับความเสียหาย ทางห้างต้องสั่งปิดให้บริการในส่วนชั้นใต้ดิน และประสานงานหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กทม. มาร่วมสูบน้ำออกและนำถุงทรายมาทับปากฝาท่อน้ำไว้ ส่วนรอบๆ ห้างช่วงถนนอโศกที่อยู่ไม่ไกลมากนัก มีน้ำท่วมขังบนท้องถนนราว 20-30 ซม. ต้องเร่งระบายลงคลองแสนแสบ

ฝนถล่มกรุง น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ บางจุดสูงกว่าครึ่งล้อ


น.ส.ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่มีการโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์ภาพน้ำท่วมร้านท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาสุขุมวิท 19 ที่ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของตัวอาคารห้างโรบินสัน สุขุมวิท นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากมีฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำฝนสูงมากกว่าปกติ และมีน้ำผุดทะลักขึ้นมาจากพื้นกระเบื้องและท่วมขังพื้นที่ร้านท็อปส์ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุค่าความเสียหายได้ หลังมีน้ำท่วมขังได้ปิดทำการเพื่อเคลียร์พื้นที่ และจะเปิดให้บริการได้ตามปกติในวันที่ 25 มี.ค.

ส่วนที่ถนนพระราม 9 บริเวณแยก อสมท แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง พบน้ำท่วมขังถนนทำให้ การจราจรติดขัดอย่างมาก โดยที่ซอยทวีมิตร 12 พบว่า ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร มีรถจมนิ่งแช่อยู่ในน้ำ ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในซอยเดือดร้อนต้องหอบของหนีน้ำกันวุ่นวาย เพราะรถทุกชนิดไม่สามารถเข้าออกได้ ตำรวจจราจร สน.ห้วยขวาง สั่งปิดถนนในซอยทันที นายคำผา ปรีกุล อายุ 67 ปี กล่าวว่า อาศัยอยู่บริเวณนี้มานานกว่า 29 ปี ทุกปีเวลาฝนตกจะเดือดร้อนเพราะน้ำท่วมเป็นประจำ แค่ฝนตกเล็กน้อยก็ท่วมแล้ว

ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.จิรยุทธ ดุ่นป่า พนักงานสอบสวน สน.บางรัก รับแจ้งมีอาคารพาณิชย์ทรุดตัวลงมาทับรถแท็กซี่ ริมถนนสี่พระยา มุ่งหน้าแยกมหาเศรษฐ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก ไปตรวจสอบพร้อมด้วยนางสุภาวดี สิทธิกรไพบูลย์ ผอ.เขตบางรัก พบอาคารพาณิชย์สภาพเก่าร้าง ปลูกติดกัน 6 คูหา สูง 2 ชั้น กันสาดปูนชั้น 2 จำนวน 3 คูหาทรุดตัวเศษปูนตกใส่รถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีเขียว ทะเบียน ทว 2469 กรุงเทพมหานคร กระโปรงหน้ายุบ ด้านนางสุภาวดีเปิดเผยว่า อาคารมีอายุประมาณ 50 ปี ถูกปล่อยร้างกว่า 10 ปี แต่ยังมีการซื้อขายเปลี่ยนมือโดยตลอด ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากอาคารเก่าปูนเปื่อยตามกาลเวลา เมื่อมีฝนตกหนักหลายชั่วโมง ทำให้กันสาดรับน้ำหนักไม่ไหว

ด้านนายกังวาฬ ดีสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. เปิดเผยว่า สำนักการระบายน้ำแจ้งว่าเริ่มมีฝนตกลงมาในพื้นที่กรุงเทพฯตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น. อาทิ ฝั่งพระนคร แนวริมแม่น้ำเขตบางคอแหลม สาทร บางรัก วัฒนา คลองเตย ห้วยขวาง ดินแดง บางกะปิ บึงกุ่ม สะพานสูง มีนบุรี สวนหลวง ประเวศ บางนา พระโขนง ส่วนฝั่งธนบุรี ได้แก่ ตลิ่งชัน ภาษีเจริญ บางแค บางกอกใหญ่ และธนบุรี ในส่วนน้ำท่วมขังพบว่ามีหลายจุด เช่น ย่านอโศกมีน้ำท่วมขังเฉลี่ย 15-20 ซม. และบริเวณดินแดง ช่วงโบสถ์แม่พระ ถนนสวนพลู ถนนท้ายวัง หน้าวัดโพธิ์ และถนนรามคำแหง ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำแห้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้กำชับสำนักงานเขตทุกแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่จุดอ่อน 23จุดดูแลการทิ้งขยะและเร่งเก็บขยะในช่วงมีฝนตกเพราะเป็นอุปสรรคขวางทางน้ำ พร้อมกันนี้ สำนักการระบายน้ำเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วมให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้

ขณะที่นายสรรเสริญ เรืองฤทธิ์ วิศวะไฟฟ้าชำนาญการ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า ปริมาณฝนสูงสุดในพื้นที่เขตสาทร 73.5 มิลลิเมตร เขตมีนบุรี 70 มิลลิเมตร เขตคลองเตย 67 มิลลิเมตร เขตดินแดง 55 มิลลิเมตร ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมขังหลายจุดการจราจรติดขัด อาทิ ถนนเพชรบุรี แยกอโศก-แยกมิตรสัมพันธ์ น้ำท่วมขังสูง 15 ซม. ถนนอโศก หน้าชิโนทัย 40 ซม. ถนนซอยสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 มีน้ำท่วมขังสูง 30-40 ซม. ถนนเจริญกรุง หน้าห้างโรบินสัน 15 ซม. ถนนพัฒนาการ 15-20 ซม. ถนนสวนพลู 15 ซม. ถนนศรีอยุธยา หน้าวังสวนผักกาด สูง 10-15 ซม. ถนนรัชดาภิเษก หน้าสถานทูตจีน 25 ซม. ถนนดินแดง หน้าตลาดขวัญ 40 ซม. ถนนประชาสุข 20 ซม. ถนนประชาสงเคราะห์ 10-15 ซม. ถนนสนามไชย หน้าวัดโพธิ์ 10-15 ซม. ส่วนรอบสนามหลวง น้ำท่วมสูง 10-15 ซม. ถนนสุรวงศ์ ใต้ทางด่วน 10-15 ซม. อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครเตรียมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยง กระทั่งในเวลา 15.30 น. สามารถเร่งระบายน้ำและควบคุมสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติได้ทุกจุด

ขณะที่หลายจังหวัดเกิดฝนตกหนักเช่นเดียวกัน โดยที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 16.30 น. เกิดฝนตกหนักนานกว่า 4 ชม. ส่งผลให้บริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยาตั้งแต่พัทยาเหนือถึงพัทยาใต้ ภายในซอยบัวขาวพัทยากลาง ถนนสุขุมวิททั้ง 2 ฝั่ง และภายในซอยถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 60 ซม. รถเล็กและรถ จยย.เสียหายหลายคัน การจราจรทุกเส้นทางเป็นอัมพาตโดยปริยาย ตำรวจและหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หลังเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำได้ระบายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เกิดฝนตกหนักทำให้ถนนสุขุมวิท หน้าตลาดนัด 700 ไร่ และหน้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินไปจนถึงสามแยกไฟแดง กม.1 มีน้ำท่วม รถเล็กและรถ จยย.สัญจรผ่านไม่ได้

ด้าน ร.ต.อ.สมคิด บุญลอย พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งเมื่อเวลา 16.00 น. ว่ามีคนถูกฟ้าผ่าตายที่ชายทะเลบางพระ หมู่ 2 ต.บางพระ ไปสอบสวนทราบชื่อนายจักกริช พันธวนิช อายุ 21 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คนชื่อ น.ส.จีรนันท์ จำปานิ อายุ 23 ปี ถูกนำส่ง รพ.พญาไทศรีราชา ก่อนส่งต่อ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สอบสวนทราบว่า ผู้ตายและบาดเจ็บพร้อมเพื่อนอีก 2 คน ไปหาหอยชายทะเลท่ามกลางฝนฟ้าร้องก่อนถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา ทำให้นายจักกริชเสียชีวิตและ น.ส.จีรนันท์บาดเจ็บ ส่วนอีก 2 คนไม่ได้รับอันตราย

ที่ จ.นครปฐม เวลา 16.00 น. เกิดพายุฝนตกหนักใน อ.นครชัยศรี และ อ.เมือง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครปฐมฝนตกแค่ 30 นาทีทำให้น้ำท่วมทะลักสูง 40 ซม. การจราจรติดขัด รถเก๋งไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ร้านค้าที่อาศัยอยู่ตามริมถนนราชวิถีตั้งแต่มหาวิทยาลัยศิลปากรถึงสี่แยกโรงเรียนราชินีบูรณะ ระยะทาง 3 กม.มีน้ำเอ่อท่วมร้านค้า ถนนต้นสนตั้งแต่ถนนซ้ายพระไปจนถึงพระราชวังสนามจันทร์ บางช่วงน้ำท่วมสูงรถวิ่งสัญจรไม่ได้ ส่วนถนนเพชรเกษมตั้งแต่สะพานลอยข้ามถนนตาลคอหวายจนถึงสี่แยกพระเมรุ ระยะทาง 4 กม.ทั้งขาเข้า กทม.และขาออกมีน้ำท่วมขัง 2 เลนบริเวณหน้าห้างเทสโก้โลตัสน้ำสูง 40 ซม. หลังฝนตกนายเอกพันธ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม ต้องระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อระบายน้ำลงคลองเจดีย์บูชาที่ จ.สระบุรี ฝนตกถนนลื่นทำให้รถเทรเลอร์ลื่นตกถนน โดยในช่วงสายวันเดียวกัน ร.ต.ท.ศรายุทธ สีลีพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี รับแจ้งสายวันเดียวกันว่ามีรถเทรเลอร์ตกเหวบริเวณทางลงเนินเขาจันทร์ ถนนมิตรภาพ ขาเข้า จ.สระบุรี กม.ที่ 30-31 ต.มิตรภาพ ตรวจสอบพบรถเทรเลอร์ 22 ล้อ ทะเบียน 61-5893 กรุงเทพมหานคร ชนขอบปูนข้างทางตกลงไปลึกกว่า 10 เมตร พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า มีนายวีรยุทธ์ เหลือขัน อายุ 48 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บ โดยนายวีรยุทธ์ให้การว่า ขับรถ บรรทุกไม้พาเลทจาก จ.ขอนแก่น ไปส่ง จ.สมุทรปราการ ระหว่างทางฝนตกหนักและเป็นทางโค้งลงเนิน ทำให้เสียหลักพุ่งตกข้างทาง

จ.สุโขทัย เกิดพายุฝนถล่มใน อ.สวรรคโลก ส่งผลให้บ้านเรือนพื้นที่หมู่ 12 ต.ในเมือง เสียหายหลายหลัง ส่วนใหญ่ถูกลมหอบหลังคาสังกะสีปลิวว่อน โดยเฉพาะบ้านของนายอุดม ไก่แก้ว อายุ 48 ปี เลขที่ 136 หมู่ 12 ต.ในเมือง เสียหายหนักหลังคาหายไปครึ่งหลัง ทำให้ข้าวของในบ้านเปียกน้ำเกือบหมด เช่นเดียวกับบ้านของนายสมจิตร ใจดี อายุ 61 ปี เลขที่ 65/1 หมู่ 12 ต.ในเมือง ได้รับความเสียหายไม่แพ้กัน ต่อมาในช่วงสาย นายสำราญ หนุนนาค นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลในเมือง นำสังกะสีไปซ่อมแซมบ้านทั้งสองหลังแล้ว

ส่วน จ.เชียงใหม่ พล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากลมพายุพัดถล่มเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.สันป่าตอง อ.หางดง และ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ หนักสุดที่บ้านอุเม็ง หมู่ 5 ต.ยุหว่า อ.สันป่าตอง บ้านทรงไทยของนายหน่อคำ ศรีจำปาเมา อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/1 หมู่ 5 ต.ยุหว่า ที่กำลังก่อสร้างพังลงมาทั้งหลังและทับบ้านญาติที่อยู่ติดกันเสียหาย 1 หลัง และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ เสียหายอีก 1 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างซ่อมแซมบ้านที่ประสบภัย

จ.แพร่ นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.แพร่ รับรายงานมีพายุฝนพัดถล่มเมื่อคืนที่ผ่านมาบริเวณบ้านบุญแจ่ม ต.น้ำเลา อ.ร้องกวาง จึงนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบบ้านเรือนเสียหาย 8 หลัง ในจำนวนนี้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง ส่วนความเสียหายอื่นๆมีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางถนน เสาไฟฟ้าหักโค่นจนไฟดับทั้งหมู่บ้าน พืชผลการเกษตรมีมะม่วงและมะละกอล้ม ทั้งนี้ ผวจ.แพร่ ได้ประกาศเตือนประชาชนระมัดระวังพายุฝนและลูกเห็บตกในช่วงนี้จนถึงวันที่ 29 มี.ค.นี้



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.